หน้านี้ได้รับการแปลโดย Cloud Translation API

TestระยะหมดเวลาForcer

public final class TestTimeoutEnforcer
extends ResultForwarder

java.lang.Object
↳	com.android.tradefed.result.ResultForwarder
	↳	com.android.tradefed.testtype.TestTimeoutEnforcementr

Listener ที่อนุญาตให้ตรวจสอบเวลาการดำเนินการของกรอบการทดสอบหนึ่งๆ และจะดำเนินการไม่สำเร็จหากได้รับ ในระยะหมดเวลาที่กำหนด

โปรดทราบว่าการบังคับใช้นี้จะไม่ขัดจังหวะการทดสอบ แต่จะทำให้การทดสอบไม่ผ่าน

สรุป

ช่อง
`public static final String`	`TEST_CASE_TIMEOUT_DESCRIPTION`
`public static final String`	`TEST_CASE_TIMEOUT_OPTION`

ช่างก่อสร้างสาธารณะ
`TestTimeoutEnforcer(long perTestCaseTimeout, TimeUnit unit, ITestInvocationListener... listeners)` สร้าง `TestTimeoutEnforcer` ที่มีระยะหมดเวลาที่กำหนดเพื่อบังคับใช้
`TestTimeoutEnforcer(long perTestCaseTimeout, TimeUnit unit, listeners)` สร้าง `TestTimeoutEnforcer` ที่มีระยะหมดเวลาที่กำหนดเพื่อบังคับใช้

วิธีการสาธารณะ
`void`	`testAssumptionFailure(TestDescription test, FailureDescription failure)` เรียกใช้เมื่อตัวบ่งชี้การทดสอบแบบอะตอมระบุว่ามีเงื่อนไขที่เป็นเท็จ
`void`	`testAssumptionFailure(TestDescription test, String trace)` เรียกใช้เมื่อตัวบ่งชี้การทดสอบแบบอะตอมระบุว่ามีเงื่อนไขที่เป็นเท็จ
`void`	`testEnded(TestDescription test, long endTime, testMetrics)` ใช้แทน `ERROR(/#testEnded(com.android.tradefed.result.TestDescription,Map))` ที่เราสามารถระบุเวลาสิ้นสุดได้ โดยตรง
`void`	`testFailed(TestDescription test, FailureDescription failure)` รายงานความล้มเหลวของกรอบการทดสอบแต่ละรายการ
`void`	`testFailed(TestDescription test, String trace)` รายงานความล้มเหลวของกรอบการทดสอบแต่ละรายการ
`void`	`testIgnored(TestDescription test)` เรียกใช้เมื่อการทดสอบจะไม่ทำงาน โดยทั่วไปเนื่องจากวิธีการทดสอบมีคำอธิบายประกอบด้วย org.junit. ignore
`void`	`testStarted(TestDescription test, long startTime)` ใช้แทน `testStarted(com.android.tradefed.result.TestDescription)` ซึ่งเราจะระบุเวลาที่ทดสอบด้วย เริ่ม รวมกับ `ERROR(/#testEnded(com.android.tradefed.result.TestDescription,long,Map))` เพื่อการวัดผลที่แม่นยำ

ช่อง

TEST_CASE_TIMEOUT_DESCRIPTION

public static final String TEST_CASE_TIMEOUT_DESCRIPTION

ตัวเลือกเวลาออก TEST_CASE_TIME

public static final String TEST_CASE_TIMEOUT_OPTION

ช่างก่อสร้างสาธารณะ

TestระยะหมดเวลาForcer

public TestTimeoutEnforcer (long perTestCaseTimeout, 
                TimeUnit unit, 
                ITestInvocationListener... listeners)

สร้าง TestTimeoutEnforcer ที่มีระยะหมดเวลาที่กำหนดเพื่อบังคับใช้

พารามิเตอร์
`perTestCaseTimeout`	`long`: ค่าของระยะหมดเวลา
`unit`	`TimeUnit`: `ERROR(/TimeUnit)` ของ perTestCaseTimeout
`listeners`	`ITestInvocationListener`: `ITestInvocationListener` ที่จะส่งต่อ

TestระยะหมดเวลาForcer

public TestTimeoutEnforcer (long perTestCaseTimeout, 
                TimeUnit unit, 
                 listeners)

สร้าง TestTimeoutEnforcer ที่มีระยะหมดเวลาที่กำหนดเพื่อบังคับใช้

พารามิเตอร์
`perTestCaseTimeout`	`long`: ค่าของระยะหมดเวลา
`unit`	`TimeUnit`: `ERROR(/TimeUnit)` ของ perTestCaseTimeout
`listeners`	: `ITestInvocationListener` ที่จะส่งต่อ

วิธีการสาธารณะ

testAssumptionFailure

public void testAssumptionFailure (TestDescription test, 
                FailureDescription failure)

เรียกใช้เมื่อตัวบ่งชี้การทดสอบแบบอะตอมระบุว่ามีเงื่อนไขที่เป็นเท็จ

พารามิเตอร์
`test`	`TestDescription`: ระบุการทดสอบ
`failure`	`FailureDescription`: `FailureDescription` ที่อธิบายความล้มเหลวและบริบท

testAssumptionFailure

public void testAssumptionFailure (TestDescription test, 
                String trace)

เรียกใช้เมื่อตัวบ่งชี้การทดสอบแบบอะตอมระบุว่ามีเงื่อนไขที่เป็นเท็จ

พารามิเตอร์
`test`	`TestDescription`: ระบุการทดสอบ
`trace`	`String`: สแต็กเทรซของความล้มเหลว

สิ้นสุดการทดสอบ

public void testEnded (TestDescription test, 
                long endTime, 
                 testMetrics)

ใช้แทน ERROR(/#testEnded(com.android.tradefed.result.TestDescription,Map)) ที่เราสามารถระบุเวลาสิ้นสุดได้ โดยตรง ใช้ร่วมกับ testStarted(com.android.tradefed.result.TestDescription, long) เพื่อการวัดที่แม่นยำ

พารามิเตอร์
`test`	`TestDescription`: ระบุการทดสอบ
`endTime`	`long`: เวลาที่การทดสอบสิ้นสุดลง โดยวัดผ่าน `System.currentTimeMillis()`
`testMetrics`	: เมตริก `ERROR(/Map)` รายการที่ระบบปล่อยออกมา

การทดสอบล้มเหลว

public void testFailed (TestDescription test, 
                FailureDescription failure)

รายงานความล้มเหลวของกรอบการทดสอบแต่ละรายการ

จะมีการเรียกระหว่าง testStarted และ testEnded

พารามิเตอร์
`test`	`TestDescription`: ระบุการทดสอบ
`failure`	`FailureDescription`: `FailureDescription` ที่อธิบายความล้มเหลวและบริบท

การทดสอบล้มเหลว

public void testFailed (TestDescription test, 
                String trace)

รายงานความล้มเหลวของกรอบการทดสอบแต่ละรายการ

จะมีการเรียกระหว่าง testStarted และ testEnded

พารามิเตอร์
`test`	`TestDescription`: ระบุการทดสอบ
`trace`	`String`: สแต็กเทรซของความล้มเหลว

ละเว้นการทดสอบแล้ว

public void testIgnored (TestDescription test)

เรียกใช้เมื่อการทดสอบจะไม่ทำงาน โดยทั่วไปเนื่องจากวิธีการทดสอบมีคำอธิบายประกอบด้วย org.junit. ignore

พารามิเตอร์
`test`	`TestDescription`: ระบุการทดสอบ

เริ่มทดสอบแล้ว

public void testStarted (TestDescription test, 
                long startTime)

ใช้แทน testStarted(com.android.tradefed.result.TestDescription) ซึ่งเราจะระบุเวลาที่ทดสอบด้วย เริ่ม รวมกับ ERROR(/#testEnded(com.android.tradefed.result.TestDescription,long,Map)) เพื่อการวัดผลที่แม่นยำ

พารามิเตอร์
`test`	`TestDescription`: ระบุการทดสอบ
`startTime`	`long`: เวลาที่การทดสอบเริ่มต้นขึ้น วัดผ่าน `System.currentTimeMillis()`