หน้านี้ได้รับการแปลโดย Cloud Translation API

NativeDevice

public class NativeDevice
extends Object implements IConfigurationReceiver, IManagedTestDevice, ITestLoggerReceiver

java.lang.Object
↳	com.android.tradefed.device.NativeDevice

คลาสย่อยโดยตรงที่ทราบ

TestDevice

TestDevice การติดตั้งใช้งาน ITestDevice สําหรับอุปกรณ์ Android แบบสแต็กเต็ม

คลาสย่อยโดยอ้อมที่ทราบ

LocalAndroidVirtualDevice, ManagedRemoteDevice, NestedRemoteDevice, RemoteAndroidDevice, RemoteAndroidVirtualDevice

LocalAndroidVirtualDevice	คลาสสำหรับอุปกรณ์เสมือนในพื้นที่ที่ทำงานบนโฮสต์ TradeFed
ManagedRemoteDevice	อุปกรณ์ที่ทำงานภายในเครื่องเสมือนที่เราจัดการจากระยะไกลผ่านอินสแตนซ์ Tradefed ภายใน VM
NestedRemoteDevice	การนําเสนออุปกรณ์ที่ทํางานภายใน Cuttlefish VM ระยะไกล
RemoteAndroidDevice	การติดตั้งใช้งาน `ITestDevice` สําหรับอุปกรณ์ Android แบบสแต็กเต็มรูปแบบที่เชื่อมต่อผ่าน adb connect
RemoteAndroidVirtualDevice	ขยายลักษณะการทํางานของ `RemoteAndroidDevice` สําหรับอุปกรณ์ Android สแต็กแบบสมบูรณ์ที่ทํางานใน Google Compute Engine (GCE)

การติดตั้งใช้งานเริ่มต้นของITestDevice อุปกรณ์ Android ที่ไม่ใช้สแต็กแบบสมบูรณ์

สรุป

ชั้นเรียนที่ซ้อนกัน
`class`	`NativeDevice.AdbAction` `ERROR(DeviceAction/com.android.tradefed.device.NativeDevice.DeviceAction DeviceAction)` สำหรับเรียกใช้คำสั่ง "adb ...." ของ OS
`class`	`NativeDevice.AdbShellAction`
`class`	`NativeDevice.RebootDeviceAction` `ERROR(DeviceAction/com.android.tradefed.device.NativeDevice.DeviceAction DeviceAction)` เพื่อรีบูตอุปกรณ์

ค่าคงที่
`int`	`INVALID_USER_ID` ค่าที่แสดงผลสำหรับรหัสผู้ใช้ที่ไม่ถูกต้อง/ไม่พบ: UserHandle กำหนดค่า -10000
`long`	`MAX_HOST_DEVICE_TIME_OFFSET`
`int`	`MAX_RETRY_ATTEMPTS` จำนวนเริ่มต้นของการพยายามดำเนินการคำสั่งอีกครั้ง

ช่อง
`public static final String`	`DEBUGFS_PATH`
`protected static final String`	`SD_CARD`
`protected static final String`	`STORAGE_EMULATED`
`protected TestDeviceOptions`	`mOptions`
`protected final IDeviceStateMonitor`	`mStateMonitor`

ตัวสร้างแบบสาธารณะ
`NativeDevice(IDevice device, IDeviceStateMonitor stateMonitor, IDeviceMonitor allocationMonitor)` สร้าง `TestDevice`

เมธอดสาธารณะ
`void`	`batchPrefetchStartupBuildProps()` การเพิ่มประสิทธิภาพแบบไมโคร (ประมาณ 400 มิลลิวินาที) โดยการเรียกใช้พร็อพทั้งหมดที่เราต้องการล่วงหน้าแทนการเรียกใช้ "adb getprop" สำหรับแต่ละรายการ
`boolean`	`canSwitchToHeadlessSystemUser()` แสดงผลว่าระบบอนุญาตให้เปลี่ยนเป็นผู้ใช้ระบบแบบไม่มีส่วนหัวหรือไม่
`boolean`	`checkApiLevelAgainstNextRelease(int strictMinLevel)` ตรวจสอบว่าฟีเจอร์ใดบ้างที่รองรับในปัจจุบันตามระดับที่รองรับขั้นต่ำ
`boolean`	`checkConnectivity()` ตรวจสอบว่าอุปกรณ์มีการเชื่อมต่อเครือข่าย
`boolean`	`clearErrorDialogs()` พยายามปิดกล่องโต้ตอบข้อผิดพลาดที่แสดงอยู่ใน UI ของอุปกรณ์
`void`	`clearLastConnectedWifiNetwork()` ล้างเครือข่าย Wi-Fi ที่เชื่อมต่อล่าสุด
`void`	`clearLogcat()` ลบข้อมูล logcat ที่สะสมไว้
`boolean`	`connectToWifiNetwork( wifiSsidToPsk, boolean scanSsid)` เชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi
`boolean`	`connectToWifiNetwork(String wifiSsid, String wifiPsk)` เชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi
`boolean`	`connectToWifiNetwork( wifiSsidToPsk)` เชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi
`boolean`	`connectToWifiNetwork(String wifiSsid, String wifiPsk, boolean scanSsid)` เชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi
`boolean`	`connectToWifiNetworkIfNeeded(String wifiSsid, String wifiPsk, boolean scanSsid)` ตัวแปรของ `connectToWifiNetwork(String, String)` ที่เชื่อมต่อเฉพาะในกรณีที่อุปกรณ์ไม่มีการเชื่อมต่อเครือข่าย
`boolean`	`connectToWifiNetworkIfNeeded(String wifiSsid, String wifiPsk)` ตัวแปรของ `connectToWifiNetwork(String, String)` ที่เชื่อมต่อเฉพาะในกรณีที่อุปกรณ์ไม่มีการเชื่อมต่อเครือข่าย
`int`	`createUser(String name, boolean guest, boolean ephemeral)` สร้างผู้ใช้ที่มีชื่อและ Flag ที่ระบุ
`int`	`createUser(String name, boolean guest, boolean ephemeral, boolean forTesting)` สร้างผู้ใช้ที่มีชื่อและ Flag ที่ระบุ
`int`	`createUser(String name)` สร้างผู้ใช้ที่มีชื่อที่ระบุและ Flag เริ่มต้น 0
`int`	`createUserNoThrow(String name)` สร้างผู้ใช้ที่มีชื่อที่ระบุและ Flag เริ่มต้น 0
`void`	`deleteFile(String deviceFilePath, int userId)` เมธอดตัวช่วยในการลบไฟล์หรือไดเรกทอรีในอุปกรณ์
`void`	`deleteFile(String deviceFilePath)` เมธอดตัวช่วยในการลบไฟล์หรือไดเรกทอรีในอุปกรณ์
`void`	`deregisterDeviceActionReceiver(IDeviceActionReceiver deviceActionReceiver)` นำ `IDeviceActionReceiver` ที่ลงทะเบียนออก
`boolean`	`deviceSoftRestarted(ProcessInfo prevSystemServerProcess)` เมธอดผู้ช่วยสำหรับตรวจสอบว่าอุปกรณ์รีสตาร์ทแบบซอฟต์แล้วหรือไม่โดยเปรียบเทียบ system_server ปัจจุบันกับ `ProcessInfo` system_server ก่อนหน้า
`boolean`	`deviceSoftRestartedSince(long utcEpochTime, TimeUnit timeUnit)` เมธอดตัวช่วยสำหรับตรวจสอบว่าอุปกรณ์รีสตาร์ทแบบซอฟต์ตั้งแต่เวลา UTC นับจากจุดเริ่มต้นจากอุปกรณ์และ `ERROR(/TimeUnit)` หรือไม่
`boolean`	`disableAdbRoot()` ปิด adb root
`void`	`disableKeyguard()` พยายามปิดใช้การป้องกันจากการกดแป้นพิมพ์
`boolean`	`disableNetworkMonitor()` ปิดใช้การตรวจสอบเครือข่ายในอุปกรณ์
`boolean`	`disconnectFromWifi()` ยกเลิกการเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi
`boolean`	`doesFileExist(String deviceFilePath, int userId)` เมธอดตัวช่วยเพื่อระบุว่ามีไฟล์ในอุปกรณ์สำหรับผู้ใช้รายหนึ่งหรือไม่
`boolean`	`doesFileExist(String deviceFilePath)` เมธอดตัวช่วยเพื่อระบุว่ามีไฟล์ในอุปกรณ์หรือไม่
`File`	`dumpHeap(String process, String devicePath)` พยายามถ่ายโอนกองจาก system_server
`boolean`	`enableAdbRoot()` เปิด adb root
`boolean`	`enableNetworkMonitor()` เปิดใช้การตรวจสอบเครือข่ายในอุปกรณ์
`String`	`executeAdbCommand(long timeout, String... cmdArgs)` เมธอดตัวช่วยที่เรียกใช้คําสั่ง adb เป็นคําสั่งระบบที่มีระยะหมดเวลาตามที่ระบุ
`String`	`executeAdbCommand(long timeout, envMap, String... cmdArgs)` เมธอดตัวช่วยที่เรียกใช้คําสั่ง adb เป็นคําสั่งระบบที่มีการหมดเวลาตามที่ระบุ
`String`	`executeAdbCommand(String... cmdArgs)` เมธอดตัวช่วยที่เรียกใช้คําสั่ง adb เป็นคําสั่งของระบบ
`CommandResult`	`executeFastbootCommand(String... cmdArgs)` เมธอดตัวช่วยที่เรียกใช้คำสั่ง fastboot เป็นคำสั่งของระบบที่มีระยะหมดเวลาเริ่มต้น 2 นาที
`CommandResult`	`executeFastbootCommand(long timeout, String... cmdArgs)` เมธอดตัวช่วยที่ดำเนินการคำสั่ง fastboot เป็นคำสั่งของระบบ
`CommandResult`	`executeLongFastbootCommand(String... cmdArgs)` เมธอดตัวช่วยที่เรียกใช้คำสั่ง fastboot ที่ทำงานเป็นเวลานานเป็นคำสั่งของระบบ
`CommandResult`	`executeLongFastbootCommand( envVarMap, String... cmdArgs)` เมธอดตัวช่วยที่ดำเนินการคำสั่ง fastboot ที่ทำงานเป็นเวลานานเป็นคำสั่งระบบที่มีตัวแปรสภาพแวดล้อมของระบบ
`String`	`executeShellCommand(String command)` เมธอดตัวช่วยที่เรียกใช้คําสั่ง adb shell และแสดงผลลัพธ์เป็น `String`
`void`	`executeShellCommand(String command, IShellOutputReceiver receiver, long maxTimeToOutputShellResponse, TimeUnit timeUnit, int retryAttempts)` เรียกใช้คำสั่ง adb shell พร้อมพารามิเตอร์เพิ่มเติมเพื่อควบคุมลักษณะการทํางานของคําสั่ง
`void`	`executeShellCommand(String command, IShellOutputReceiver receiver, long maxTimeoutForCommand, long maxTimeToOutputShellResponse, TimeUnit timeUnit, int retryAttempts)` เรียกใช้คำสั่ง adb shell พร้อมพารามิเตอร์เพิ่มเติมเพื่อควบคุมลักษณะการทํางานของคําสั่ง
`void`	`executeShellCommand(String command, IShellOutputReceiver receiver)` ดำเนินการตามคำสั่ง adb shell ที่ระบุ โดยพยายามใหม่หลายครั้งหากคำสั่งไม่สำเร็จ
`CommandResult`	`executeShellV2Command(String cmd)` เมธอดตัวช่วยที่เรียกใช้คําสั่ง adb shell และแสดงผลลัพธ์เป็น `CommandResult` ที่สร้างขึ้นอย่างถูกต้องพร้อมเอาต์พุตสถานะคําสั่ง, stdout และ stderr
`CommandResult`	`executeShellV2Command(String cmd, OutputStream pipeToOutput)` เมธอดตัวช่วยที่เรียกใช้คําสั่ง adb shell และแสดงผลลัพธ์เป็น `CommandResult` ที่สร้างขึ้นอย่างถูกต้องพร้อมเอาต์พุตสถานะคําสั่งและ stderr
`CommandResult`	`executeShellV2Command(String cmd, File pipeAsInput)` เมธอดตัวช่วยที่เรียกใช้คําสั่ง adb shell และแสดงผลลัพธ์เป็น `CommandResult` ที่สร้างขึ้นอย่างถูกต้องพร้อมเอาต์พุตสถานะคําสั่ง, stdout และ stderr
`CommandResult`	`executeShellV2Command(String cmd, long maxTimeoutForCommand, TimeUnit timeUnit, int retryAttempts)` เรียกใช้คำสั่ง adb shell พร้อมพารามิเตอร์เพิ่มเติมเพื่อควบคุมลักษณะการทํางานของคําสั่ง
`CommandResult`	`executeShellV2Command(String cmd, long maxTimeoutForCommand, TimeUnit timeUnit)` เรียกใช้คำสั่ง adb shell พร้อมพารามิเตอร์เพิ่มเติมเพื่อควบคุมลักษณะการทํางานของคําสั่ง
`CommandResult`	`executeShellV2Command(String cmd, File pipeAsInput, OutputStream pipeToOutput, long maxTimeoutForCommand, TimeUnit timeUnit, int retryAttempts)` เรียกใช้คำสั่ง adb shell พร้อมพารามิเตอร์เพิ่มเติมเพื่อควบคุมลักษณะการทํางานของคําสั่ง
`CommandResult`	`executeShellV2Command(String cmd, File pipeAsInput, OutputStream pipeToOutput, OutputStream pipeToError, long maxTimeoutForCommand, TimeUnit timeUnit, int retryAttempts)` เรียกใช้คำสั่ง adb shell พร้อมพารามิเตอร์เพิ่มเติมเพื่อควบคุมลักษณะการทํางานของคําสั่ง
`CommandResult`	`fastbootWipePartition(String partition)` เมธอดตัวช่วยซึ่งล้างพาร์ติชันของอุปกรณ์
	`getActiveApexes()` ดึงข้อมูลเกี่ยวกับ APEX ที่เปิดใช้งานในอุปกรณ์
	`getAllSettings(String namespace)` แสดงผลคู่คีย์-ค่าของเนมสเปซที่ขอ
`DeviceAllocationState`	`getAllocationState()` แสดงสถานะการจัดสรรปัจจุบันของอุปกรณ์
`String`	`getAndroidId(int userId)` ค้นหาและแสดงผล android-id ที่เชื่อมโยงกับ userId หรือแสดงผล Null หากไม่พบ
	`getAndroidIds()` สร้างแผนที่ของรหัส Android ที่พบซึ่งตรงกับรหัสผู้ใช้
`int`	`getApiLevel()` รับระดับ API ของอุปกรณ์
`PackageInfo`	`getAppPackageInfo(String packageName)` ดึงข้อมูลเกี่ยวกับแพ็กเกจที่ติดตั้งในอุปกรณ์
	`getAppPackageInfos()` ดึงข้อมูลแพ็กเกจที่ติดตั้งในอุปกรณ์
`String`	`getBasebandVersion()` วิธีการที่สะดวกในการรับเวอร์ชันเบสแบนด์ (วิทยุ) ของอุปกรณ์นี้
`Integer`	`getBattery()` แสดงระดับแบตเตอรี่ปัจจุบันของอุปกรณ์ หรือ Null หากไม่มีระดับแบตเตอรี่
`boolean`	`getBooleanProperty(String name, boolean defaultValue)` แสดงผลค่าบูลีนของพร็อพเพอร์ตี้ที่ระบุ
	`getBootHistory()` เมธอด Helper จะรวบรวมแผนที่ประวัติการบูตพร้อมเวลาบูตและเหตุผลในการบูต
	`getBootHistorySince(long utcEpochTime, TimeUnit timeUnit)` เมธอดตัวช่วยจะรวบรวมแผนที่ประวัติการบูตพร้อมเวลาบูตและเหตุผลในการบูตนับจากเวลาที่ระบุนับจากจุดเริ่มต้นจากอุปกรณ์และหน่วยเวลาที่ระบุ
`String`	`getBootloaderVersion()` วิธีการที่สะดวกในการรับเวอร์ชัน Bootloader ของอุปกรณ์นี้
`InputStreamSource`	`getBugreport()` เรียกข้อมูลรายงานข้อบกพร่องจากอุปกรณ์
`InputStreamSource`	`getBugreportz()` เรียกข้อมูล bugreportz จากอุปกรณ์
`String`	`getBuildAlias()` เรียกข้อมูลแทนของบิลด์ที่อุปกรณ์กำลังใช้งานอยู่
`String`	`getBuildFlavor()` ดึงข้อมูล Flavor ของบิลด์สำหรับอุปกรณ์
`String`	`getBuildId()` เรียกข้อมูลบิลด์ที่อุปกรณ์ใช้อยู่
`String`	`getBuildSigningKeys()` แสดงผลประเภทคีย์ที่ใช้รับรองรูปภาพอุปกรณ์ โดยทั่วไปอุปกรณ์ Android อาจได้รับการรับรองด้วยคีย์ทดสอบ (เช่น ใน AOSP) หรือคีย์รุ่น (ควบคุมโดยผู้ผลิตอุปกรณ์แต่ละราย)
`DeviceDescriptor`	`getCachedDeviceDescriptor()` แสดง `DeviceDescriptor` ที่แคชไว้หากมีการจองอุปกรณ์ไว้ มิเช่นนั้นระบบจะแสดง `DeviceDescriptor` ปัจจุบัน
`DeviceDescriptor`	`getCachedDeviceDescriptor(boolean shortDescriptor)` แสดง `DeviceDescriptor` ที่แคชไว้หากมีการจองอุปกรณ์ไว้ มิเช่นนั้นระบบจะแสดง `DeviceDescriptor` ปัจจุบัน
`String[]`	`getChildren(String path)` ทางเลือกในการใช้ `IFileEntry` ที่บางครั้งอาจใช้ไม่ได้เนื่องจากสิทธิ์
`AbstractConnection`	`getConnection()` การเชื่อมต่อปัจจุบันที่เชื่อมโยงกับอุปกรณ์
`ContentProviderHandler`	`getContentProvider(int userId)` แสดงผล `ContentProviderHandler` หรือ Null หากไม่พร้อมใช้งาน
`DeviceFoldableState`	`getCurrentFoldableState()` แสดงสถานะการพับของอุปกรณ์ปัจจุบันหรือค่าว่างหากเกิดปัญหาบางอย่าง
`int`	`getCurrentUser()` แสดงผลรหัสของผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน
`String`	`getDeviceClass()` รับคลาสอุปกรณ์
`long`	`getDeviceDate()` แสดงผลวันที่ของอุปกรณ์เป็นมิลลิวินาทีนับจากวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1970
`DeviceDescriptor`	`getDeviceDescriptor()` แสดงผล `DeviceDescriptor` จากข้อมูลอุปกรณ์เพื่อรับข้อมูลโดยไม่ต้องส่งออบเจ็กต์อุปกรณ์จริง
`DeviceDescriptor`	`getDeviceDescriptor(boolean shortDescriptor)` แสดงผล `DeviceDescriptor` จากข้อมูลอุปกรณ์เพื่อรับข้อมูลโดยไม่ต้องส่งออบเจ็กต์อุปกรณ์จริง
`TestDeviceState`	`getDeviceState()` รับสถานะของอุปกรณ์
`long`	`getDeviceTimeOffset(Date date)` ตัวช่วยรับเวลาที่แตกต่างกันระหว่างอุปกรณ์กับ `ERROR(/Date)` ที่ระบุ
`InputStreamSource`	`getEmulatorOutput()` รับสตรีมของ stdout และ stderr ของโปรแกรมจำลอง
`Process`	`getEmulatorProcess()` แสดง `Process` ที่สอดคล้องกับโปรแกรมจำลองนี้
`final File`	`getExecuteShellCommandLog()` บันทึกที่มีบันทึก `executeShellCommand(String)` ทั้งหมด
`long`	`getExternalStoreFreeSpace()` เมธอดตัวช่วยในการระบุปริมาณพื้นที่ว่างในอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอก
`String`	`getFastbootPath()` แสดงผลเส้นทางของไบนารี fastboot ที่ใช้อยู่
`String`	`getFastbootProductType()` วิธีการที่สะดวกในการรับประเภทผลิตภัณฑ์ของอุปกรณ์นี้เมื่ออยู่ในโหมด Fastboot
`String`	`getFastbootProductVariant()` วิธีการที่สะดวกในการรับประเภทผลิตภัณฑ์ของอุปกรณ์นี้เมื่ออยู่ในโหมด Fastboot
`String`	`getFastbootSerialNumber()` แสดงผลหมายเลขซีเรียลของโหมด Fastboot
`String`	`getFastbootVariable(String variableName)` เรียกค่าตัวแปร fastboot ที่ระบุจากอุปกรณ์
`String`	`getFastbootVersion()` แสดงผลสตริงเวอร์ชันของไบนารี fastboot ที่ใช้อยู่
`IFileEntry`	`getFileEntry(String path)` เรียกข้อมูลอ้างอิงไปยังไฟล์ระยะไกลในอุปกรณ์
`IFileEntry`	`getFileEntry(FileListingService.FileEntry entry)` เครื่องมือช่วยแบบไม่เป็นทางการสำหรับรับ `FileEntry` จากเส้นทางที่ไม่ใช่รูท
	`getFoldableStates()` แสดงรายการสถานะแบบพับได้ในอุปกรณ์
`IDevice`	`getIDevice()` แสดงการอ้างอิงไปยัง ddmlib `IDevice` ที่เชื่อมโยง
	`getInstalledPackageNames()` ดึงข้อมูลชื่อแพ็กเกจแอปพลิเคชันที่มีอยู่ในอุปกรณ์
`long`	`getIntProperty(String name, long defaultValue)` แสดงผลค่าจำนวนเต็มของพร็อพเพอร์ตี้ที่ระบุจากอุปกรณ์
`String`	`getIpAddress()` รับที่อยู่ IP ของอุปกรณ์
`KeyguardControllerState`	`getKeyguardState()` แสดงผลออบเจ็กต์เพื่อรับสถานะปัจจุบันของ Keyguard หรือแสดงค่า Null หากอุปกรณ์ไม่รองรับ
`long`	`getLastExpectedRebootTimeMillis()` แสดงเวลาล่าสุดที่ Tradefed API ทริกเกอร์การรีบูตเป็นมิลลิวินาทีนับจาก EPOCH ตามที่ `System.currentTimeMillis()` แสดง
`int`	`getLaunchApiLevel()` ดูระดับ API ที่เปิดตัวครั้งแรกของอุปกรณ์
`InputStreamSource`	`getLogcat()` ดึงข้อมูลสตรีมภาพรวมของข้อมูล logcat
`InputStreamSource`	`getLogcat(int maxBytes)` ดึงข้อมูลสตรีมสแนปชอตของข้อมูล Logcat `maxBytes` รายการล่าสุดที่บันทึกไว้
`InputStreamSource`	`getLogcatDump()` รับการถ่ายโอนข้อมูล Logcat ปัจจุบันของอุปกรณ์
`InputStreamSource`	`getLogcatSince(long date)` ดึงข้อมูลสตรีมสแนปชอตของข้อมูลบันทึกที่บันทึกไว้โดยเริ่มจากวันที่ที่ระบุ
`String`	`getMacAddress()` แสดงผลที่อยู่ MAC ของอุปกรณ์ หรือแสดงผลเป็น Null หากค้นหาจากอุปกรณ์ไม่สำเร็จ
`Integer`	`getMainUserId()` แสดงผลรหัสผู้ใช้หลัก
	`getMainlineModuleInfo()` รับข้อมูลเกี่ยวกับโมดูลหลักที่ติดตั้งในอุปกรณ์
`int`	`getMaxNumberOfRunningUsersSupported()` รับจำนวนผู้ใช้สูงสุดที่รองรับการทำงานพร้อมกัน
`int`	`getMaxNumberOfUsersSupported()` ดูจำนวนผู้ใช้สูงสุดที่รองรับ
`Process`	`getMicrodroidProcess()`
`IDeviceStateMonitor`	`getMonitor()` ส่งคืน `IDeviceStateMonitor` ที่เชื่อมโยงกับอุปกรณ์
`String`	`getMountPoint(String mountName)` แสดงผลจุดต่อเชื่อม
`ITestDevice.MountPointInfo`	`getMountPointInfo(String mountpoint)` แสดงผล `MountPointInfo` ที่สอดคล้องกับเส้นทางจุดต่อเชื่อมที่ระบุ หรือ `null` หากเส้นทางนั้นไม่มีการต่อเชื่อมหรือไม่ได้ปรากฏเป็นจุดต่อเชื่อมใน /proc/mounts
	`getMountPointInfo()` แสดงผลข้อมูลใน /proc/mounts บนอุปกรณ์เวอร์ชันที่แยกวิเคราะห์แล้ว
`TestDeviceOptions`	`getOptions()` ดึงข้อมูลตัวเลือกการทดสอบสำหรับอุปกรณ์
`long`	`getPartitionFreeSpace(String partition)` เมธอดตัวช่วยในการระบุปริมาณพื้นที่ว่างบนพาร์ติชันของอุปกรณ์
`Integer`	`getPrimaryUserId()` แสดงผลรหัสผู้ใช้หลัก
`ProcessInfo`	`getProcessByName(String processName)` เมธอดตัวช่วยจะเรียกใช้คําสั่ง "pidof" และ "stat" และแสดงผลออบเจ็กต์ `ProcessInfo` ที่มี PID และเวลาเริ่มต้นของกระบวนการที่ระบุ
`String`	`getProcessPid(String process)` แสดง PID ของบริการหรือค่าว่างหากเกิดข้อผิดพลาด
`String`	`getProductType()` วิธีการที่สะดวกในการรับประเภทผลิตภัณฑ์ของอุปกรณ์นี้
`String`	`getProductVariant()` วิธีการที่สะดวกในการรับผลิตภัณฑ์ย่อยของอุปกรณ์นี้
`String`	`getProperty(String name)` ดึงค่าพร็อพเพอร์ตี้ที่ระบุจากอุปกรณ์
`ITestDevice.RecoveryMode`	`getRecoveryMode()` ดูโหมดการกู้คืนปัจจุบันที่ใช้กับอุปกรณ์
`InputStreamSource`	`getScreenshot(long displayId)` จับภาพหน้าจอจากรหัสการแสดงผลของอุปกรณ์
`InputStreamSource`	`getScreenshot(String format)` จับภาพหน้าจอจากอุปกรณ์
`InputStreamSource`	`getScreenshot(String format, boolean rescale)` จับภาพหน้าจอจากอุปกรณ์
`InputStreamSource`	`getScreenshot()` จับภาพหน้าจอจากอุปกรณ์
`String`	`getSerialNumber()` วิธีการที่สะดวกในการรับหมายเลขซีเรียลของอุปกรณ์นี้
`String`	`getSetting(int userId, String namespace, String key)` แสดงค่าของการตั้งค่าที่ขอ
`String`	`getSetting(String namespace, String key)` ดู `getSetting(int, String, String)` และดำเนินการกับผู้ใช้ระบบ
`String`	`getSimOperator()` แสดงผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือหรือค่า Null หากไม่มีหรืออุปกรณ์ไม่พร้อมใช้งาน
`String`	`getSimState()` แสดงสถานะซิมการ์ดหรือค่าว่างหากไม่พร้อมใช้งานหรืออุปกรณ์ไม่พร้อมใช้งาน
	`getTombstones()` ดึงข้อมูลและแสดงรายการรายการที่ลบไปแล้วจากอุปกรณ์
`long`	`getTotalMemory()` แสดงขนาดหน่วยความจําจริงทั้งหมดเป็นไบต์ หรือ -1 ในกรณีที่เกิดข้อผิดพลาดภายใน
`String`	`getTrackingSerial()` หาหมายเลขซีเรียลที่ใช้ติดตามอุปกรณ์เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดการอุปกรณ์
	`getUninstallablePackageNames()` ดึงข้อมูลชื่อแพ็กเกจแอปพลิเคชันที่ถอนการติดตั้งได้
`boolean`	`getUseFastbootErase()` ดูว่าควรใช้ fastboot erase หรือ fastboot format เพื่อล้างพาร์ติชันในอุปกรณ์
`int`	`getUserFlags(int userId)` ค้นหาและแสดงการแจ้งเตือนของผู้ใช้ที่ระบุ
	`getUserInfos()` รับแผนที่ของ useId เป็น `UserInfo` ในอุปกรณ์
`int`	`getUserSerialNumber(int userId)` แสดงหมายเลขซีเรียลที่เชื่อมโยงกับ userId หากพบ หรือ -10000 ในกรณีอื่นๆ
`IManagedTestDevice.DeviceEventResponse`	`handleAllocationEvent(DeviceEvent event)` ประมวลผล DeviceEvent ที่ระบุ ประมวลผล DeviceEvent ซึ่งอาจเปลี่ยนสถานะการจัดสรรอุปกรณ์นี้ใหม่หรือไม่ก็ได้
`boolean`	`hasFeature(String feature)` ตรวจสอบว่าฟีเจอร์พร้อมใช้งานในอุปกรณ์หรือไม่
`String`	`installPackage(File packageFile, boolean reinstall, String... extraArgs)` ติดตั้งแพ็กเกจ Android ในอุปกรณ์
`String`	`installPackage(File packageFile, boolean reinstall, boolean grantPermissions, String... extraArgs)` ติดตั้งแพ็กเกจ Android ในอุปกรณ์
`String`	`installPackageForUser(File packageFile, boolean reinstall, int userId, String... extraArgs)` ติดตั้งแพ็กเกจ Android ในอุปกรณ์สำหรับผู้ใช้รายหนึ่งๆ
`String`	`installPackageForUser(File packageFile, boolean reinstall, boolean grantPermissions, int userId, String... extraArgs)` ติดตั้งแพ็กเกจ Android ในอุปกรณ์สำหรับผู้ใช้รายหนึ่งๆ
`void`	`invalidatePropertyCache()`
`boolean`	`isAdbRoot()`
`boolean`	`isAdbTcp()`
`boolean`	`isAppEnumerationSupported()` ตรวจสอบว่าแพลตฟอร์มในอุปกรณ์รองรับการแจกแจงแอปหรือไม่
`boolean`	`isBypassLowTargetSdkBlockSupported()` ตรวจสอบว่าแพลตฟอร์มในอุปกรณ์รองรับการข้ามการบล็อก SDK เป้าหมายต่ำในการติดตั้งแอปหรือไม่
`boolean`	`isDebugfsMounted()` ตรวจสอบว่าระบบได้ต่อเชื่อม debugfs หรือไม่
`boolean`	`isDeviceEncrypted()` แสดงผลหากอุปกรณ์มีการเข้ารหัส
`boolean`	`isDirectory(String path)` แสดงผลเป็น "จริง" หากเส้นทางในอุปกรณ์เป็นไดเรกทอรี หากไม่ใช่จะแสดงผลเป็น "เท็จ"
`boolean`	`isEnableAdbRoot()`
`boolean`	`isEncryptionSupported()` แสดงผลหากอุปกรณ์รองรับการเข้ารหัส
`boolean`	`isExecutable(String fullPath)` แสดงผลเป็น True หากเส้นทางไฟล์ในอุปกรณ์เป็นไฟล์ที่เรียกใช้ได้ หากไม่ใช่จะแสดงผลเป็น False
`boolean`	`isFastbootEnabled()` แสดงผลหากอุปกรณ์มี Fastboot
`boolean`	`isHeadless()` แสดงผลเป็น "จริง" หากอุปกรณ์ไม่มีจอแสดงผล (ไม่มีหน้าจอ) หากไม่ใช่จะแสดงผลเป็น "เท็จ"
`boolean`	`isHeadlessSystemUserMode()` แสดงผลว่าอุปกรณ์ใช้โหมดผู้ใช้ระบบแบบไม่มีส่วนหัวหรือไม่
`boolean`	`isMainUserPermanentAdmin()` แสดงผลว่าผู้ใช้หลักเป็นผู้ดูแลระบบถาวรและไม่สามารถลบหรือดาวน์เกรดเป็นสถานะไม่ใช่ผู้ดูแลระบบได้หรือไม่
`boolean`	`isMultiUserSupported()` กำหนดว่าระบบรองรับผู้ใช้หลายคนหรือไม่
`boolean`	`isPackageInstalled(String packageName, String userId)` ค้นหาชื่อแพ็กเกจและรหัสผู้ใช้ที่ระบุในอุปกรณ์เพื่อดูว่าผู้ใช้รายนั้นติดตั้งแอปดังกล่าวหรือไม่
`boolean`	`isPackageInstalled(String packageName)` ค้นหาชื่อแพ็กเกจที่ระบุในอุปกรณ์เพื่อดูว่าติดตั้งอยู่หรือไม่
`boolean`	`isRuntimePermissionSupported()` ตรวจสอบว่าแพลตฟอร์มในอุปกรณ์รองรับการให้สิทธิ์รันไทม์หรือไม่
`boolean`	`isStateBootloaderOrFastbootd()` แสดงค่า "จริง" หากอุปกรณ์อยู่ใน `TestDeviceState.FASTBOOT` หรือ `TestDeviceState.FASTBOOTD`
`boolean`	`isUserRunning(int userId)` ตรวจสอบว่าผู้ใช้รายใดรายหนึ่งกำลังใช้งานอยู่หรือไม่
`boolean`	`isUserSecondary(int userId)` แสดงผลว่าผู้ใช้ที่ระบุเป็นผู้ใช้รองหรือไม่ตาม Flag ของผู้ใช้
`boolean`	`isUserVisible(int userId)` ตรวจสอบว่าผู้ใช้ที่ระบุมองเห็นหรือไม่
`boolean`	`isUserVisibleOnDisplay(int userId, int displayId)` ตรวจสอบว่าผู้ใช้ที่ระบุปรากฏในการแสดงผลที่ระบุหรือไม่
`boolean`	`isVisibleBackgroundUsersOnDefaultDisplaySupported()` แสดงผลว่าอุปกรณ์อนุญาตให้ผู้ใช้เริ่มแสดงในเบื้องหลังใน `ERROR(/java.android.view.Display#DEFAULT_DISPLAY)` หรือไม่
`boolean`	`isVisibleBackgroundUsersSupported()` แสดงผลว่าอุปกรณ์อนุญาตให้ผู้ใช้เริ่มแสดงในเบื้องหลังหรือไม่
`boolean`	`isWifiEnabled()` ทดสอบว่าเปิดใช้ Wi-Fi หรือไม่
	`listDisplayIds()` รวบรวมรายการรหัสจอแสดงผลที่ใช้ได้บนอุปกรณ์ตามที่ "dumpsys SurfaceFlinger" รายงาน
	`listDisplayIdsForStartingVisibleBackgroundUsers()` รับรายการจอแสดงผลที่ใช้เพื่อ`start a user visible in the background`ได้
	`listUsers()` รับรายชื่อผู้ใช้ในอุปกรณ์
`boolean`	`logAnrs(ITestLogger logger)` รวบรวมและบันทึก ANR จากอุปกรณ์
`boolean`	`logBugreport(String dataName, ITestLogger listener)` วิธีการช่วยเพื่อนำรายงานข้อบกพร่องไปบันทึกให้กับผู้รายงาน
`void`	`logOnDevice(String tag, Log.LogLevel level, String format, Object... args)` บันทึกข้อความใน Logcat ของอุปกรณ์
`void`	`mountDebugfs()` ติดตั้ง debugfs
`void`	`nonBlockingReboot()` ส่งคําสั่งให้รีบูตอุปกรณ์และแสดงผลเมื่อคําสั่งเสร็จสมบูรณ์และเมื่อ adb ไม่เห็นอุปกรณ์อีกต่อไป
`void`	`postAdbRootAction()` ลบล้างหากอุปกรณ์ต้องดำเนินการบางอย่างหลังจากการรูทด้วย adb และก่อนที่อุปกรณ์จะกลับมาออนไลน์อีกครั้ง
`void`	`postAdbUnrootAction()` ลบล้างหากอุปกรณ์ต้องดำเนินการบางอย่างหลังจาก adb ยกเลิกการรูทและก่อนที่อุปกรณ์จะกลับมาออนไลน์อีกครั้ง
`void`	`postBootSetup()` ทำตามวิธีการเพื่อกำหนดค่าอุปกรณ์สำหรับการทดสอบหลังจากการบูตทุกครั้ง
`void`	`postInvocationTearDown(Throwable exception)` ขั้นตอนเพิ่มเติมสำหรับการล้างข้อมูลที่จำเป็นสำหรับอุปกรณ์โดยเฉพาะที่จะดำเนินการหลังจากการเรียกใช้เสร็จสิ้น
`void`	`preInvocationSetup(IBuildInfo info, MultiMap<String, String> attributes)` ขั้นตอนเพิ่มเติมสำหรับการตั้งค่าที่จำเป็นเฉพาะอุปกรณ์ที่จะดำเนินการในอุปกรณ์ก่อนขั้นตอนเรียกใช้
`boolean`	`pullDir(String deviceFilePath, File localDir, int userId)` ดึงเนื้อหาไดเรกทอรีจากอุปกรณ์แบบซ้ำ
`boolean`	`pullDir(String deviceFilePath, File localDir)` ดึงเนื้อหาไดเรกทอรีจากอุปกรณ์แบบซ้ำ
`boolean`	`pullFile(String remoteFilePath, File localFile)` ดึงข้อมูลไฟล์ออกจากอุปกรณ์
`File`	`pullFile(String remoteFilePath, int userId)` ดึงไฟล์ออกจากอุปกรณ์ จัดเก็บไว้ใน `ERROR(/File)` ชั่วคราวในเครื่อง และแสดง `File` นั้น
`File`	`pullFile(String remoteFilePath)` ดึงไฟล์ออกจากอุปกรณ์ จัดเก็บไว้ใน `ERROR(/File)` ชั่วคราวในเครื่อง และแสดง `File` นั้น
`boolean`	`pullFile(String remoteFilePath, File localFile, int userId)` ดึงข้อมูลไฟล์ออกจากอุปกรณ์
`String`	`pullFileContents(String remoteFilePath)` ดึงข้อมูลไฟล์ออกจากอุปกรณ์และแสดงผลเนื้อหา
`File`	`pullFileFromExternal(String remoteFilePath)` วิธีการที่สะดวกในการดึงไฟล์จากที่จัดเก็บข้อมูลภายนอกของอุปกรณ์ จัดเก็บไฟล์ใน`ERROR(/File)`ชั่วคราวในเครื่อง และแสดงผลข้อมูลอ้างอิงไปยัง`File`นั้น
`boolean`	`pushDir(File localFileDir, String deviceFilePath, excludedDirectories)` พุชเนื้อหาไดเรกทอรีไปยังอุปกรณ์แบบซ้ำซ้อนขณะยกเว้นไดเรกทอรีบางรายการที่กรองออก
`boolean`	`pushDir(File localFileDir, String deviceFilePath)` พุชเนื้อหาไดเรกทอรีไปยังอุปกรณ์แบบซ้ำ
`boolean`	`pushDir(File localFileDir, String deviceFilePath, int userId)` พุชเนื้อหาไดเรกทอรีไปยังอุปกรณ์แบบซ้ำ
`boolean`	`pushFile(File localFile, String remoteFilePath, boolean evaluateContentProviderNeeded)` ตัวแปรของ `pushFile(File, String)` ซึ่งอาจพิจารณาประเมินความจำเป็นสำหรับผู้ให้บริการเนื้อหา
`boolean`	`pushFile(File localFile, String remoteFilePath)` พุชไฟล์ไปยังอุปกรณ์
`boolean`	`pushFile(File localFile, String remoteFilePath, int userId)` พุชไฟล์ไปยังอุปกรณ์
`boolean`	`pushString(String contents, String remoteFilePath)` พุชไฟล์ที่สร้างจากสตริงไปยังอุปกรณ์
`void`	`reboot(String reason)` รีบูตอุปกรณ์เป็นโหมด ADB ด้วย `reason` ที่ระบุไว้เพื่อให้คงอยู่หลังจากรีบูต
`void`	`reboot()` รีบูตอุปกรณ์เป็นโหมด adb
`void`	`rebootIntoBootloader()` รีบูตอุปกรณ์เป็นโหมด Bootloader
`void`	`rebootIntoFastbootd()` รีบูตอุปกรณ์เข้าสู่โหมด fastbootd
`void`	`rebootIntoRecovery()` รีบูตอุปกรณ์ให้อยู่ในโหมดการกู้คืน adb
`void`	`rebootIntoSideload()` รีบูตอุปกรณ์เป็นโหมดการโหลดจากแหล่งที่ไม่รู้จักของ adb (โปรดทราบว่านี่เป็นโหมดพิเศษในการกู้คืน) บล็อกจนกว่าอุปกรณ์จะเข้าสู่โหมดการโหลดจากภายนอก
`void`	`rebootIntoSideload(boolean autoReboot)` รีบูตอุปกรณ์เป็นโหมดการโหลดจากแหล่งที่ไม่รู้จักของ adb (โปรดทราบว่านี่เป็นโหมดพิเศษในการกู้คืน) บล็อกจนกว่าอุปกรณ์จะเข้าสู่โหมดการโหลดจากภายนอก
`void`	`rebootUntilOnline()` คำสั่งอื่นแทน `reboot()` ที่บล็อกเฉพาะจนกว่าอุปกรณ์จะออนไลน์ เช่น มองเห็นโดย adb
`void`	`rebootUntilOnline(String reason)` คำสั่งอื่นแทน `reboot()` ที่บล็อกเฉพาะจนกว่าอุปกรณ์จะออนไลน์ เช่น มองเห็นโดย adb
`void`	`rebootUserspace()` รีบูตเฉพาะพื้นที่ผู้ใช้ของอุปกรณ์
`void`	`rebootUserspaceUntilOnline()` คำสั่งอื่นแทน `rebootUserspace()` ()} ที่จะบล็อกจนกว่าอุปกรณ์จะออนไลน์ เช่น มองเห็นโดย adb
`boolean`	`recoverDevice()` พยายามกู้คืนการสื่อสารของอุปกรณ์
`void`	`registerDeviceActionReceiver(IDeviceActionReceiver deviceActionReceiver)` ลงทะเบียน `IDeviceActionReceiver` สำหรับอุปกรณ์นี้
`void`	`remountSystemReadOnly()` ทำให้พาร์ติชันระบบในอุปกรณ์เป็นแบบอ่านอย่างเดียว
`void`	`remountSystemWritable()` ทำให้สามารถเขียนพาร์ติชันระบบในอุปกรณ์ได้
`void`	`remountVendorReadOnly()` ทำให้พาร์ติชันของผู้ให้บริการในอุปกรณ์เป็นแบบอ่านอย่างเดียว
`void`	`remountVendorWritable()` ทำให้สามารถเขียนพาร์ติชันของผู้ให้บริการในอุปกรณ์ได้
`boolean`	`removeAdmin(String componentName, int userId)` นำผู้ดูแลระบบอุปกรณ์ที่ระบุในผู้ใช้ที่ระบุออก และแสดงผลลัพธ์เป็น `true` หากดำเนินการสำเร็จ หรือ `false` หากดำเนินการไม่สำเร็จ
`void`	`removeOwners()` นำเจ้าของโปรไฟล์อุปกรณ์ที่มีอยู่ทั้งหมดออก
`boolean`	`removeUser(int userId)` นำผู้ใช้ออกจากอุปกรณ์
`void`	`resetContentProviderSetup()` รีเซ็ตการตั้งค่าผู้ให้บริการเนื้อหาเพื่อเรียกให้การตั้งค่าทำงานอีกครั้ง
`boolean`	`runInstrumentationTests(IRemoteAndroidTestRunner runner, ITestLifeCycleReceiver... listeners)` เมธอดที่สะดวกสำหรับการดำเนินการ `ERROR(/#runInstrumentationTests(com.android.ddmlib.testrunner.IRemoteAndroidTestRunner,Collection))` ที่มี Listener อย่างน้อย 1 รายการที่ส่งผ่านเป็นพารามิเตอร์
`boolean`	`runInstrumentationTests(IRemoteAndroidTestRunner runner, listeners)` เรียกใช้การทดสอบการใช้เครื่องมือและให้การกู้คืนอุปกรณ์
`boolean`	`runInstrumentationTestsAsUser(IRemoteAndroidTestRunner runner, int userId, listeners)` เหมือนกับ `ERROR(ITestDevice.runInstrumentationTests(IRemoteAndroidTestRunner, Collection)/com.android.tradefed.device.ITestDevice#runInstrumentationTests(com.android.ddmlib.testrunner.IRemoteAndroidTestRunner,Collection) ITestDevice.runInstrumentationTests(IRemoteAndroidTestRunner, Collection))` แต่จะเป็นการเรียกใช้การทดสอบสําหรับผู้ใช้ที่ระบุ
`boolean`	`runInstrumentationTestsAsUser(IRemoteAndroidTestRunner runner, int userId, ITestLifeCycleReceiver... listeners)` เหมือนกับ `ITestDevice.runInstrumentationTests(IRemoteAndroidTestRunner, ITestLifeCycleReceiver...)` แต่ทำการทดสอบสําหรับผู้ใช้หนึ่งๆ
`void`	`setConfiguration(IConfiguration configuration)` แทรก `IConfiguration` ที่ใช้อยู่
`final void`	`setConnectionAvdInfo(GceAvdInfo avdInfo)`
`void`	`setDate(Date date)` ตั้งค่าวันที่ในอุปกรณ์ หมายเหตุ: การตั้งค่าวันที่ในอุปกรณ์ต้องเข้าถึงระดับรูท
`boolean`	`setDeviceOwner(String componentName, int userId)` ตั้งค่าคอมโพเนนต์ผู้ดูแลระบบอุปกรณ์เป็นเจ้าของอุปกรณ์ในผู้ใช้ที่ระบุ
`void`	`setDeviceState(TestDeviceState deviceState)` อัปเดตสถานะของอุปกรณ์
`void`	`setEmulatorOutputStream(SizeLimitedOutputStream output)` สําหรับโปรแกรมจําลอง ให้ตั้งค่า `SizeLimitedOutputStream` เพื่อบันทึกเอาต์พุต
`void`	`setEmulatorProcess(Process p)` ตั้งค่า `Process` เมื่ออุปกรณ์นี้เป็นโปรแกรมจำลอง
`void`	`setFastbootEnabled(boolean fastbootEnabled)` ตั้งค่าตัวเลือกการบูตด่วนสำหรับอุปกรณ์
`void`	`setFastbootPath(String fastbootPath)` ตั้งค่าเส้นทางไปยังไบนารี fastboot ที่ควรใช้
`void`	`setIDevice(IDevice newDevice)` อัปเดต IDevice ที่เชื่อมโยงกับ ITestDevice นี้
`void`	`setLogStartDelay(int delay)` ตั้งค่าเวลาเป็นมิลลิวินาทีที่จะรอก่อนที่จะเริ่มการบันทึก Logcat สําหรับอุปกรณ์ออนไลน์
`void`	`setOptions(TestDeviceOptions options)` ตั้งค่า `TestDeviceOptions` สําหรับอุปกรณ์
`boolean`	`setProperty(String propKey, String propValue)` ตั้งค่าพร็อพเพอร์ตี้ที่ระบุในอุปกรณ์
`void`	`setRecovery(IDeviceRecovery recovery)` ตั้งค่า `IDeviceRecovery` เพื่อใช้กับอุปกรณ์นี้
`void`	`setRecoveryMode(ITestDevice.RecoveryMode mode)` ตั้งค่าโหมดการกู้คืนปัจจุบันที่จะใช้กับอุปกรณ์
`void`	`setSetting(String namespace, String key, String value)` ดู `setSetting(int, String, String, String)` และดำเนินการกับผู้ใช้ระบบ
`void`	`setSetting(int userId, String namespace, String key, String value)` เพิ่มค่าการตั้งค่าลงในเนมสเปซของผู้ใช้รายหนึ่งๆ
`void`	`setTestLogger(ITestLogger testLogger)` แทรกอินสแตนซ์ `ITestLogger`
`void`	`setTrackingSerial(String trackingSerial)` ติดตามหมายเลขซีเรียลที่เราใช้อ้างอิงอุปกรณ์เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดการอุปกรณ์
`void`	`setUseFastbootErase(boolean useFastbootErase)` ตั้งค่าว่าจะใช้การลบด้วย Fastboot หรือการจัดรูปแบบด้วย Fastboot เพื่อล้างพาร์ติชันในอุปกรณ์
`void`	`startLogcat()` เริ่มบันทึกเอาต์พุต Logcat จากอุปกรณ์ในเบื้องหลัง
`boolean`	`startUser(int userId)` เริ่มผู้ใช้ที่ระบุในเบื้องหลังหากหยุดอยู่
`boolean`	`startUser(int userId, boolean waitFlag)` เริ่มผู้ใช้ที่ระบุในเบื้องหลังหากหยุดอยู่
`boolean`	`startVisibleBackgroundUser(int userId, int displayId, boolean waitFlag)` เริ่มผู้ใช้ที่ระบุในเบื้องหลัง ซึ่งจะปรากฏในจอแสดงผลที่ระบุ (กล่าวคือ อนุญาตให้ผู้ใช้เปิดกิจกรรมในจอแสดงผลนั้น)
`void`	`stopEmulatorOutput()` ปิดและลบเอาต์พุตของโปรแกรมจำลอง
`void`	`stopLogcat()` หยุดบันทึกเอาต์พุต logcat จากอุปกรณ์และทิ้งข้อมูล logcat ที่บันทึกไว้ในปัจจุบัน
`boolean`	`stopUser(int userId)` หยุดผู้ใช้รายหนึ่ง
`boolean`	`stopUser(int userId, boolean waitFlag, boolean forceFlag)` หยุดผู้ใช้รายหนึ่ง
`String`	`switchToAdbTcp()` เปลี่ยนอุปกรณ์เป็นโหมด adb-over-tcp
`boolean`	`switchToAdbUsb()` เปลี่ยนอุปกรณ์เป็นโหมด adb ผ่าน USB
`boolean`	`switchUser(int userId)` เปลี่ยนไปใช้รหัสผู้ใช้อื่นที่มีระยะหมดเวลาเริ่มต้น
`boolean`	`switchUser(int userId, long timeout)` เปลี่ยนไปใช้รหัสผู้ใช้อื่นโดยกำหนดเวลาหมดอายุเป็นระยะหมดเวลา
`boolean`	`syncFiles(File localFileDir, String deviceFilePath)` ซิงค์เนื้อหาของไดเรกทอรีไฟล์ในเครื่องกับอุปกรณ์แบบเพิ่ม
`Bugreport`	`takeBugreport()` รับรายงานข้อบกพร่องและแสดงผลภายในออบเจ็กต์ `Bugreport` เพื่อจัดการ
`String`	`uninstallPackage(String packageName)` ถอนการติดตั้งแพ็กเกจ Android จากอุปกรณ์
`String`	`uninstallPackageForUser(String packageName, int userId)` ถอนการติดตั้งแพ็กเกจ Android จากอุปกรณ์ของผู้ใช้รายหนึ่ง
`boolean`	`unlockDevice()` ปลดล็อกอุปกรณ์หากอุปกรณ์อยู่ในสถานะเข้ารหัส
`void`	`unmountDebugfs()` ยกเลิกการต่อเชื่อม debugfs
`boolean`	`waitForBootComplete(long timeOut)` บล็อกจนกว่าจะมีการตั้งค่า Flag การบูตเสร็จสมบูรณ์ของอุปกรณ์
`boolean`	`waitForDeviceAvailable()` รอให้อุปกรณ์ตอบสนองและพร้อมสำหรับการทดสอบ
`boolean`	`waitForDeviceAvailable(long waitTime)` รอให้อุปกรณ์ตอบสนองและพร้อมสำหรับการทดสอบ
`boolean`	`waitForDeviceAvailableInRecoverPath(long waitTime)` รอให้อุปกรณ์ตอบสนองและพร้อมใช้งานโดยไม่คำนึงถึงเส้นทางการกู้คืน
`void`	`waitForDeviceBootloader()` บล็อกจนกว่าอุปกรณ์จะมองเห็นได้ผ่าน Fastboot
`boolean`	`waitForDeviceInRecovery(long waitTime)` บล็อกไม่ให้อุปกรณ์อยู่ในสถานะ "การกู้คืน adb" (โปรดทราบว่าสถานะนี้แตกต่างจาก `IDeviceRecovery`)
`boolean`	`waitForDeviceInSideload(long waitTime)` บล็อกไม่ให้อุปกรณ์อยู่ในสถานะ "การโหลดจากด้านข้างด้วย adb"
`boolean`	`waitForDeviceNotAvailable(long waitTime)` บล็อกไม่ให้อุปกรณ์พร้อมใช้งาน เช่น ไม่อยู่ใน ADB
`void`	`waitForDeviceOnline()` บล็อกจนกว่าอุปกรณ์จะมองเห็นได้ผ่าน adb
`void`	`waitForDeviceOnline(long waitTime)` บล็อกจนกว่าอุปกรณ์จะมองเห็นได้ผ่าน adb
`boolean`	`waitForDeviceShell(long waitTime)` รอให้อุปกรณ์ตอบสนองต่อคําสั่งเชลล์ adb พื้นฐาน

วิธีการที่มีการป้องกัน
`void`	`addExtraConnectionBuilderArgs(DefaultConnection.ConnectionBuilder builder)`
`String[]`	`buildAdbShellCommand(String command, boolean forceExitStatusDetection)` สร้างคำสั่งระบบปฏิบัติการสำหรับเซสชันและอาร์กิวเมนต์คำสั่งเชลล์ adb ที่ระบุ
`void`	`checkApiLevelAgainst(String feature, int strictMinLevel)`
`NativeDevice.RebootDeviceAction`	`createRebootDeviceAction(NativeDevice.RebootMode rebootMode, String reason)` สร้าง `RebootDeviceAction` เพื่อใช้เมื่อดำเนินการรีบูต
`IRunUtil`	`createRunUtil()`
`void`	`doAdbReboot(NativeDevice.RebootMode rebootMode, String reason)` รีบูต adb
`void`	`ensureRuntimePermissionSupported()` เมธอดตัวช่วยที่จะแสดงข้อยกเว้นหากระบบไม่รองรับสิทธิ์รันไทม์
`int`	`getApiLevelSafe()`
`ITestLogger`	`getLogger()`
`IRunUtil`	`getRunUtil()` รับอินสแตนซ์ `RunUtil` เพื่อใช้งาน
`void`	`initializeConnection(IBuildInfo info, MultiMap<String, String> attributes)`
`String`	`internalGetProperty(String propName, String fastbootVar, String description)` ดึงข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ของอุปกรณ์จากแคช ddmlib โดยค่าเริ่มต้น และเปลี่ยนไปใช้ `adb shell getprop` หรือ `fastboot getvar` ขึ้นอยู่กับว่าอุปกรณ์อยู่ใน Fastboot หรือไม่
`boolean`	`isInRebootCallback()` แสดงผลว่าขณะนี้มีการเรียกกลับการรีบูตหรือไม่
`boolean`	`isNewer(File localFile, IFileEntry entry)` แสดงผล `true` หากไฟล์ในเครื่องใหม่กว่าไฟล์ระยะไกล
`void`	`notifyRebootEnded()` แจ้ง `IDeviceActionReceiver` ทั้งหมดเกี่ยวกับเหตุการณ์การรีบูตสิ้นสุด
`void`	`notifyRebootStarted()` แจ้ง `IDeviceActionReceiver` ทั้งหมดเกี่ยวกับเหตุการณ์การเริ่มรีบูต
`boolean`	`performDeviceAction(String actionDescription, NativeDevice.DeviceAction action, int retryAttempts)` ดำเนินการในอุปกรณ์นี้
`void`	`postAdbReboot()` การดำเนินการเพิ่มเติมที่ทำได้หลังจากรีบูต
`void`	`prePostBootSetup()` อนุญาตให้อุปกรณ์แต่ละประเภท (AndroidNativeDevice, TestDevice) ลบล้างวิธีการนี้สำหรับการตั้งค่าหลังการบูตที่เฉพาะเจาะจง
`boolean`	`pullFileInternal(String remoteFilePath, File localFile)`
`void`	`setClock(Clock clock)` ตั้งค่าอินสแตนซ์นาฬิกาที่จะใช้
`void`	`setMicrodroidProcess(Process process)` ทําเครื่องหมาย TestDevice เป็น microdroid และตั้งค่ารหัสลูกค้า
`void`	`setTestDeviceOptions( deviceOptions)`
`CommandResult`	`simpleFastbootCommand(long timeout, envVarMap, String[] fullCmd)` เรียกใช้คําสั่ง fastboot แบบง่ายด้วยตัวแปรสภาพแวดล้อมและรายงานสถานะของคําสั่ง
`CommandResult`	`simpleFastbootCommand(long timeout, String[] fullCmd)` ดำเนินการตามคำสั่ง fastboot ง่ายๆ และรายงานสถานะของคำสั่ง
`boolean`	`waitForDeviceNotAvailable(String operationDesc, long time)` รอให้อุปกรณ์ไม่พร้อมใช้งาน (หยุดการรายงานไปยัง adb)

ค่าคงที่

INVALID_USER_ID

public static final int INVALID_USER_ID

ค่าที่แสดงผลสำหรับรหัสผู้ใช้ที่ไม่ถูกต้อง/ไม่พบ: UserHandle กำหนดค่า -10000

ค่าคงที่: -10000 (0xffffd8f0)

MAX_HOST_DEVICE_TIME_OFFSET

protected static final long MAX_HOST_DEVICE_TIME_OFFSET

ค่าคงที่: 5000 (0x0000000000001388)

MAX_RETRY_ATTEMPTS

protected static final int MAX_RETRY_ATTEMPTS

จำนวนเริ่มต้นของการพยายามเรียกใช้คำสั่งอีกครั้ง

ค่าคงที่: 2 (0x00000002)

ช่อง

DEBUGFS_PATH

public static final String DEBUGFS_PATH

SD_CARD

protected static final String SD_CARD

STORAGE_EMULATED

protected static final String STORAGE_EMULATED

mOptions

protected TestDeviceOptions mOptions

mStateMonitor

protected final IDeviceStateMonitor mStateMonitor

ตัวสร้างแบบสาธารณะ

NativeDevice

public NativeDevice (IDevice device, 
                IDeviceStateMonitor stateMonitor, 
                IDeviceMonitor allocationMonitor)

สร้าง TestDevice

พารามิเตอร์
`device`	`IDevice`: `IDevice` ที่เชื่อมโยง
`stateMonitor`	`IDeviceStateMonitor`: กลไก `IDeviceStateMonitor` ที่จะใช้
`allocationMonitor`	`IDeviceMonitor`: `IDeviceMonitor` เพื่อแจ้งให้ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงสถานะการจัดสรร อาจเป็นค่าว่าง

เมธอดสาธารณะ

batchPrefetchStartupBuildProps

public void batchPrefetchStartupBuildProps ()

การเพิ่มประสิทธิภาพแบบไมโคร (ประมาณ 400 มิลลิวินาที) โดยการเรียกข้อมูลพร็อพทั้งหมดที่เราต้องการล่วงหน้าแทนการเรียกใช้ "adb getprop" สำหรับแต่ละรายการ กล่าวคือ การดึงข้อมูลพร็อพทั้งหมดจะเร็วเท่ากับการดึงข้อมูลพร็อพรายการเดียว การดำเนินการต่างๆ เช่น device.getApiLevel(), checkApiLevelAgainstNextRelease และ getBuildAlias ทั้งหมดจะเรียกใช้ `adb getprop` อยู่เบื้องหลัง เราจะดึงข้อมูลในคําเรียกเดียวและเรียกใช้ NativeDevice.setProperty แม้ว่าเราจะไม่ดำเนินการนี้ NativeDevice จะเรียก setProperty และแคชผลลัพธ์ไว้สำหรับการเรียกใช้ในอนาคต เราแค่ดำเนินการให้เร็วขึ้นเล็กน้อย หากอุปกรณ์กำลังกู้คืนหรือมีข้อผิดพลาดอื่นๆ ในการดึงข้อมูลพร็อพ เราจะละเว้นข้อผิดพลาดเหล่านั้น

canSwitchToHeadlessSystemUser

public boolean canSwitchToHeadlessSystemUser ()

แสดงผลว่าระบบอนุญาตให้เปลี่ยนเป็นผู้ใช้ระบบแบบไม่มีส่วนหัวหรือไม่

คิกรีเทิร์น
`boolean`

โยน
`DeviceNotAvailableException`

checkApiLevelAgainstNextRelease

public boolean checkApiLevelAgainstNextRelease (int strictMinLevel)

ตรวจสอบว่าฟีเจอร์ใดบ้างที่รองรับในปัจจุบันตามระดับที่รองรับขั้นต่ำ วิธีนี้พิจารณาฟีเจอร์ที่ยังไม่เปิดตัวก่อนที่จะเพิ่มระดับ API

พารามิเตอร์
`strictMinLevel`	`int`: ระดับขั้นต่ำที่เป็นไปได้ซึ่งรองรับฟีเจอร์

คิกรีเทิร์น
`boolean`	จริงหากระบบรองรับระดับนั้น จะเป็นเท็จหากไม่เป็นเช่นนั้น

โยน
`DeviceNotAvailableException`

checkConnectivity

public boolean checkConnectivity ()

ตรวจสอบว่าอุปกรณ์มีการเชื่อมต่อเครือข่าย

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากอุปกรณ์เชื่อมต่อกับเครือข่ายที่กำลังทำงานอยู่ `false` ไม่เช่นนั้น

โยน
`DeviceNotAvailableException`

clearErrorDialogs

public boolean clearErrorDialogs ()

พยายามปิดกล่องโต้ตอบข้อผิดพลาดที่แสดงอยู่ใน UI ของอุปกรณ์

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากไม่มีกล่องโต้ตอบหรือล้างกล่องโต้ตอบเรียบร้อยแล้ว `false` ในกรณีอื่น

โยน
`DeviceNotAvailableException`

clearLastConnectedWifiNetwork

public void clearLastConnectedWifiNetwork ()

ล้างเครือข่าย Wi-Fi ที่เชื่อมต่อล่าสุด ควรเรียกใช้เมื่อเริ่มการเรียกใช้ใหม่เพื่อหลีกเลี่ยงการเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi ที่ใช้ในการทดสอบครั้งก่อนหลังจากรีบูตอุปกรณ์

clearLogcat

public void clearLogcat ()

ลบข้อมูล logcat ที่สะสมไว้

ซึ่งจะมีประโยชน์ในกรณีที่คุณต้องการตรวจสอบว่า ITestDevice.getLogcat() จะแสดงเฉพาะข้อมูลบันทึกที่สร้างขึ้นหลังจากจุดหนึ่งๆ (เช่น หลังจากแฟลชบิลด์อุปกรณ์ใหม่ เป็นต้น)

connectToWifiNetwork

public boolean connectToWifiNetwork ( wifiSsidToPsk, 
                boolean scanSsid)

เชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi

เปิด Wi-Fi และบล็อกจนกว่าจะเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi รายการใดรายการหนึ่งที่อยู่ในแผนที่ wifiSsidToPsk สำเร็จ เมื่อเชื่อมต่อแล้ว อินสแตนซ์จะพยายามคืนค่าการเชื่อมต่อหลังจากการรีบูตทุกครั้งจนกว่าจะมีการเรียก ITestDevice.disconnectFromWifi() หรือ ITestDevice.clearLastConnectedWifiNetwork()

พารามิเตอร์
`wifiSsidToPsk`	: แผนที่ SSID ของ Wi-Fi กับรหัสผ่าน
`scanSsid`	`boolean`: กำหนดว่าจะสแกนหา SSID ที่ซ่อนอยู่ของเครือข่ายนี้หรือไม่

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากเชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi สำเร็จ `false` otherwise

โยน
`DeviceNotAvailableException`

connectToWifiNetwork

public boolean connectToWifiNetwork (String wifiSsid, 
                String wifiPsk)

เชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi

เปิด Wi-Fi และบล็อกจนกว่าจะเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi ที่ระบุได้สําเร็จ เมื่อเชื่อมต่อแล้ว อินสแตนซ์จะพยายามคืนค่าการเชื่อมต่อหลังจากการรีบูตทุกครั้งจนกว่าจะมีการเรียก ITestDevice.disconnectFromWifi() หรือ ITestDevice.clearLastConnectedWifiNetwork()

พารามิเตอร์
`wifiSsid`	`String`: SSID ของ Wi-Fi ที่จะเชื่อมต่อ
`wifiPsk`	`String`: รหัสผ่าน PSK หรือ Null หากไม่มีการเข้ารหัส

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากเชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi สำเร็จ `false` otherwise

โยน
`DeviceNotAvailableException`

connectToWifiNetwork

public boolean connectToWifiNetwork ( wifiSsidToPsk)

เชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi

เปิด Wi-Fi และบล็อกจนกว่าจะเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi รายการใดรายการหนึ่งที่อยู่ในแผนที่ wifiSsidToPsk สำเร็จ เมื่อเชื่อมต่อแล้ว อินสแตนซ์จะพยายามคืนค่าการเชื่อมต่อหลังจากรีบูตทุกครั้งจนกว่าจะมีการเรียก ITestDevice.disconnectFromWifi() หรือ ITestDevice.clearLastConnectedWifiNetwork()

พารามิเตอร์
`wifiSsidToPsk`	: แผนที่ SSID ของ Wi-Fi กับรหัสผ่าน

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากเชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi สำเร็จ `false` otherwise

โยน
`DeviceNotAvailableException`

connectToWifiNetwork

public boolean connectToWifiNetwork (String wifiSsid, 
                String wifiPsk, 
                boolean scanSsid)

เชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi

พารามิเตอร์
`wifiSsid`	`String`: SSID ของ Wi-Fi ที่จะเชื่อมต่อ
`wifiPsk`	`String`: รหัสผ่าน PSK หรือ Null หากไม่มีการเข้ารหัส
`scanSsid`	`boolean`: กำหนดว่าจะสแกนหา SSID ที่ซ่อนอยู่ของเครือข่ายนี้หรือไม่

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากเชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi สำเร็จ `false` otherwise

โยน
`DeviceNotAvailableException`

connectToWifiNetworkIfNeeded

public boolean connectToWifiNetworkIfNeeded (String wifiSsid, 
                String wifiPsk, 
                boolean scanSsid)

ตัวแปรของ connectToWifiNetwork(String, String) ที่เชื่อมต่อเฉพาะในกรณีที่อุปกรณ์ไม่มีการเชื่อมต่อเครือข่าย

พารามิเตอร์
`scanSsid`	`boolean`: กำหนดว่าจะสแกนหา SSID ที่ซ่อนอยู่ของเครือข่ายนี้หรือไม่

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากเชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi สำเร็จ `false` otherwise

โยน
`DeviceNotAvailableException`

connectToWifiNetworkIfNeeded

public boolean connectToWifiNetworkIfNeeded (String wifiSsid, 
                String wifiPsk)

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากเชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi สำเร็จ `false` otherwise

โยน
`DeviceNotAvailableException`

createUser

public int createUser (String name, 
                boolean guest, 
                boolean ephemeral)

สร้างผู้ใช้ที่มีชื่อและ Flag ที่ระบุ

พารามิเตอร์
`name`	`String`: ของผู้ใช้ที่จะสร้างในอุปกรณ์
`guest`	`boolean`: เปิดใช้ Flag ผู้ใช้ --guest ระหว่างการสร้าง
`ephemeral`	`boolean`: เปิดใช้ Flag ของผู้ใช้ --ephemeral ระหว่างการสร้าง

คิกรีเทิร์น
`int`	รหัสของผู้ใช้ที่สร้าง

โยน
`DeviceNotAvailableException`

createUser

public int createUser (String name, 
                boolean guest, 
                boolean ephemeral, 
                boolean forTesting)

สร้างผู้ใช้ที่มีชื่อและ Flag ที่ระบุ

พารามิเตอร์
`name`	`String`: ของผู้ใช้ที่จะสร้างในอุปกรณ์
`guest`	`boolean`: เปิดใช้ Flag ผู้ใช้ --guest ระหว่างการสร้าง
`ephemeral`	`boolean`: เปิดใช้ Flag ของผู้ใช้ --ephemeral ระหว่างการสร้าง
`forTesting`	`boolean`: เปิดใช้ Flag การทดสอบ --for-testing ระหว่างการสร้าง

คิกรีเทิร์น
`int`	รหัสของผู้ใช้ที่สร้าง

โยน
`DeviceNotAvailableException`

createUser

public int createUser (String name)

สร้างผู้ใช้ที่มีชื่อที่ระบุและ Flag เริ่มต้น 0

พารามิเตอร์
`name`	`String`: ของผู้ใช้ที่จะสร้างในอุปกรณ์

คิกรีเทิร์น
`int`	จำนวนเต็มสำหรับรหัสผู้ใช้ที่สร้าง

โยน
`DeviceNotAvailableException`

createUserNoThrow

public int createUserNoThrow (String name)

สร้างผู้ใช้ที่มีชื่อที่ระบุและ Flag เริ่มต้น 0

พารามิเตอร์
`name`	`String`: ของผู้ใช้ที่จะสร้างในอุปกรณ์

คิกรีเทิร์น
`int`	จำนวนเต็มสำหรับรหัสผู้ใช้ที่สร้างหรือ -1 สำหรับข้อผิดพลาด

โยน
`DeviceNotAvailableException`

deleteFile

public void deleteFile (String deviceFilePath, 
                int userId)

เมธอดตัวช่วยในการลบไฟล์หรือไดเรกทอรีในอุปกรณ์

พารามิเตอร์
`deviceFilePath`	`String`: เส้นทางแบบสัมบูรณ์ของไฟล์ในอุปกรณ์
`userId`	`int`: รหัสผู้ใช้ที่จะลบ

โยน
`DeviceNotAvailableException`

deleteFile

public void deleteFile (String deviceFilePath)

เมธอดตัวช่วยในการลบไฟล์หรือไดเรกทอรีในอุปกรณ์

พารามิเตอร์
`deviceFilePath`	`String`: เส้นทางแบบสัมบูรณ์ของไฟล์ในอุปกรณ์

โยน
`DeviceNotAvailableException`

deregisterDeviceActionReceiver

public void deregisterDeviceActionReceiver (IDeviceActionReceiver deviceActionReceiver)

นำ IDeviceActionReceiver ที่ลงทะเบียนออก

พารามิเตอร์
`deviceActionReceiver`	`IDeviceActionReceiver`: `IDeviceActionReceiver` ที่จะนําออก

deviceSoftRestarted

public boolean deviceSoftRestarted (ProcessInfo prevSystemServerProcess)

เมธอดผู้ช่วยสำหรับตรวจสอบว่าอุปกรณ์รีสตาร์ทแบบซอฟต์แล้วหรือไม่โดยเปรียบเทียบ system_server ปัจจุบันกับ ProcessInfo system_server ก่อนหน้า ใช้ getProcessByName(String) เพื่อรับ ProcessInfo

พารามิเตอร์
`prevSystemServerProcess`	`ProcessInfo`: กระบวนการ system_server ก่อนหน้า `ProcessInfo`

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากอุปกรณ์รีสตาร์ทแบบซอฟต์

โยน
`DeviceNotAvailableException`

deviceSoftRestartedSince

public boolean deviceSoftRestartedSince (long utcEpochTime, 
                TimeUnit timeUnit)

เมธอดตัวช่วยสำหรับตรวจสอบว่าอุปกรณ์รีสตาร์ทแบบซอฟต์ตั้งแต่เวลา UTC นับจากจุดเริ่มต้นจากอุปกรณ์และ ERROR(/TimeUnit) หรือไม่ การรีสตาร์ทแบบเบาหมายถึงการรีสตาร์ท system_server นอกการรีบูตอุปกรณ์แบบฮาร์ด (เช่น การรีบูตที่ขอ) คุณสามารถรับ utcEpochTime ของอุปกรณ์ปัจจุบันเป็นมิลลิวินาทีได้ด้วยเมธอด getDeviceDate()

พารามิเตอร์
`utcEpochTime`	`long`: เวลาของอุปกรณ์เป็นวินาทีนับตั้งแต่ Epoch
`timeUnit`	`TimeUnit`: หน่วยเวลา `TimeUnit` สำหรับ utcEpochTime ที่ระบุ

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากอุปกรณ์รีสตาร์ทแบบซอฟต์

โยน
`DeviceNotAvailableException`

disableAdbRoot

public boolean disableAdbRoot ()

ปิด adb root

การปิดใช้รูท adb อาจทำให้อุปกรณ์ตัดการเชื่อมต่อจาก adb วิธีนี้จะบล็อกจนกว่าอุปกรณ์จะพร้อมใช้งาน

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากดำเนินการสำเร็จ

โยน
`DeviceNotAvailableException`

disableKeyguard

public void disableKeyguard ()

พยายามปิดใช้การป้องกันจากการกดแป้นพิมพ์

ก่อนอื่นให้รอให้การส่งผ่านอินพุตพร้อมใช้งาน ซึ่งจะเกิดขึ้นในเวลาเดียวกันกับที่อุปกรณ์รายงาน BOOT_COMPLETE ซึ่งดูเหมือนว่าทำงานแบบไม่พร้อมกัน เนื่องจากการใช้งานเฟรมเวิร์กปัจจุบันมีเงื่อนไขการแข่งขันเป็นครั้งคราว จากนั้นระบบจะส่งคำสั่งให้ปิดโปรแกรมรักษาความปลอดภัยหน้าจอ (ใช้ได้กับโปรแกรมที่ไม่ปลอดภัยเท่านั้น)

โยน
`DeviceNotAvailableException`

disableNetworkMonitor

public boolean disableNetworkMonitor ()

ปิดใช้การตรวจสอบเครือข่ายในอุปกรณ์

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากปิดใช้การตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว `false` if it failed.

โยน
`DeviceNotAvailableException`

disconnectFromWifi

public boolean disconnectFromWifi ()

ยกเลิกการเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi

นำเครือข่ายทั้งหมดออกจากรายการเครือข่ายที่รู้จักและปิดใช้ Wi-Fi

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากยกเลิกการเชื่อมต่อจากเครือข่าย Wi-Fi สำเร็จ `false` if disconnect failed.

โยน
`DeviceNotAvailableException`

doesFileExist

public boolean doesFileExist (String deviceFilePath, 
                int userId)

เมธอดตัวช่วยเพื่อระบุว่ามีไฟล์ในอุปกรณ์สำหรับผู้ใช้รายหนึ่งหรือไม่

พารามิเตอร์
`deviceFilePath`	`String`: เส้นทางแบบสัมบูรณ์ของไฟล์ในอุปกรณ์ที่จะตรวจสอบ
`userId`	`int`: รหัสผู้ใช้ที่จะใช้ตรวจสอบการมีอยู่ของไฟล์

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากมีไฟล์ `false` หากไม่มี

โยน
`DeviceNotAvailableException`

doesFileExist

public boolean doesFileExist (String deviceFilePath)

เมธอดตัวช่วยเพื่อระบุว่ามีไฟล์ในอุปกรณ์หรือไม่

พารามิเตอร์
`deviceFilePath`	`String`: เส้นทางแบบสัมบูรณ์ของไฟล์ในอุปกรณ์ที่จะตรวจสอบ

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากมีไฟล์ `false` หากไม่มี

โยน
`DeviceNotAvailableException`

dumpHeap

public File dumpHeap (String process, 
                String devicePath)

พยายามถ่ายโอนกองจาก system_server ผู้เรียกมีหน้าที่รับผิดชอบในการล้างไฟล์ที่คัดลอก

พารามิเตอร์
`process`	`String`: ชื่อกระบวนการของอุปกรณ์ที่จะแสดงผล heap
`devicePath`	`String`: เส้นทางในอุปกรณ์ที่จะวางการดัมพ์ ต้องเป็นสถานที่ที่สิทธิ์อนุญาต

คิกรีเทิร์น
`File`	`ERROR(/File)` ที่มีรายงาน Null หากการดำเนินการไม่สำเร็จ

โยน
`DeviceNotAvailableException`

enableAdbRoot

public boolean enableAdbRoot ()

เปิด adb root หากการตั้งค่า "enable-root" เป็น "เท็จ" ระบบจะบันทึกข้อความและแสดงผลโดยไม่ได้เปิดใช้รูท

การเปิดใช้ adb root อาจทำให้อุปกรณ์ตัดการเชื่อมต่อจาก adb วิธีนี้จะบล็อกจนกว่าอุปกรณ์จะพร้อมใช้งาน

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากดำเนินการสำเร็จ

โยน
`DeviceNotAvailableException`

enableNetworkMonitor

public boolean enableNetworkMonitor ()

เปิดใช้การตรวจสอบเครือข่ายในอุปกรณ์

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากเปิดใช้การตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว `false` if it failed.

โยน
`DeviceNotAvailableException`

executeAdbCommand

public String executeAdbCommand (long timeout, 
                String... cmdArgs)

เมธอดตัวช่วยที่เรียกใช้คําสั่ง adb เป็นคําสั่งระบบที่มีการหมดเวลาตามที่ระบุ

คุณควรใช้ executeShellCommand(String) แทนเมื่อเป็นไปได้ เนื่องจากวิธีนี้มีประสิทธิภาพและตรวจหาข้อผิดพลาดได้ดีกว่า

พารามิเตอร์
`timeout`	`long`: ระยะเวลาเป็นมิลลิวินาทีก่อนที่ระบบจะถือว่าอุปกรณ์ไม่ตอบสนอง 0L สำหรับการไม่มีระยะหมดเวลา
`cmdArgs`	`String`: คำสั่ง adb และอาร์กิวเมนต์ที่จะเรียกใช้

คิกรีเทิร์น
`String`	stdout จากคําสั่ง `null` หากคําสั่งไม่ทํางาน

โยน
`DeviceNotAvailableException`

executeAdbCommand

public String executeAdbCommand (long timeout, 
                 envMap, 
                String... cmdArgs)

พารามิเตอร์
`timeout`	`long`: ระยะเวลาเป็นมิลลิวินาทีก่อนที่ระบบจะถือว่าอุปกรณ์ไม่ตอบสนอง 0L สำหรับการไม่มีระยะหมดเวลา
`envMap`	: สภาพแวดล้อมที่จะตั้งค่าสําหรับคําสั่ง
`cmdArgs`	`String`: คำสั่ง adb และอาร์กิวเมนต์ที่จะเรียกใช้

คิกรีเทิร์น
`String`	stdout จากคําสั่ง `null` หากคําสั่งไม่ทํางาน

โยน
`DeviceNotAvailableException`

executeAdbCommand

public String executeAdbCommand (String... cmdArgs)

เมธอดตัวช่วยที่เรียกใช้คําสั่ง adb เป็นคําสั่งของระบบ

พารามิเตอร์
`cmdArgs`	`String`: คำสั่ง adb และอาร์กิวเมนต์ที่จะเรียกใช้

คิกรีเทิร์น
`String`	stdout จากคําสั่ง `null` หากคําสั่งไม่ทํางาน

โยน
`DeviceNotAvailableException`

executeFastbootCommand

public CommandResult executeFastbootCommand (String... cmdArgs)

เมธอดตัวช่วยที่เรียกใช้คำสั่ง fastboot เป็นคำสั่งของระบบที่มีระยะหมดเวลาเริ่มต้น 2 นาที

ควรใช้เมื่ออุปกรณ์อยู่ในโหมด Fastboot อยู่แล้ว

พารามิเตอร์
`cmdArgs`	`String`: คำสั่ง fastboot และอาร์กิวเมนต์ที่จะเรียกใช้

คิกรีเทิร์น
`CommandResult`	CommandResult ที่มีเอาต์พุตของคําสั่ง

โยน
`DeviceNotAvailableException`

executeFastbootCommand

public CommandResult executeFastbootCommand (long timeout, 
                String... cmdArgs)

เมธอดตัวช่วยที่ดำเนินการคำสั่ง fastboot เป็นคำสั่งของระบบ

ควรใช้เมื่ออุปกรณ์อยู่ในโหมด Fastboot อยู่แล้ว

พารามิเตอร์
`timeout`	`long`: เวลาเป็นมิลลิวินาทีก่อนที่คําสั่งจะหมดอายุ
`cmdArgs`	`String`: คำสั่ง fastboot และอาร์กิวเมนต์ที่จะเรียกใช้

คิกรีเทิร์น
`CommandResult`	CommandResult ที่มีเอาต์พุตของคําสั่ง

โยน
`DeviceNotAvailableException`

executeLongFastbootCommand

public CommandResult executeLongFastbootCommand (String... cmdArgs)

เมธอดตัวช่วยที่เรียกใช้คำสั่ง fastboot ที่ทำงานเป็นเวลานานเป็นคำสั่งของระบบ

เหมือนกับ executeFastbootCommand(String) ยกเว้นใช้ระยะหมดเวลาที่นานขึ้น

พารามิเตอร์
`cmdArgs`	`String`: คำสั่ง fastboot และอาร์กิวเมนต์ที่จะเรียกใช้

คิกรีเทิร์น
`CommandResult`	CommandResult ที่มีเอาต์พุตของคําสั่ง

โยน
`DeviceNotAvailableException`

executeLongFastbootCommand

public CommandResult executeLongFastbootCommand ( envVarMap, 
                String... cmdArgs)

เมธอดตัวช่วยที่ดำเนินการคำสั่ง fastboot ที่ทำงานเป็นเวลานานเป็นคำสั่งระบบที่มีตัวแปรสภาพแวดล้อมของระบบ

เหมือนกับ executeFastbootCommand(String) ยกเว้นใช้ระยะหมดเวลาที่นานขึ้น

พารามิเตอร์
`envVarMap`	: ตัวแปรสภาพแวดล้อมของระบบที่คำสั่ง fastboot ทำงานด้วย
`cmdArgs`	`String`: คำสั่ง fastboot และอาร์กิวเมนต์ที่จะเรียกใช้

คิกรีเทิร์น
`CommandResult`	CommandResult ที่มีเอาต์พุตของคําสั่ง

โยน
`DeviceNotAvailableException`

executeShellCommand

public String executeShellCommand (String command)

เมธอดตัวช่วยที่เรียกใช้คําสั่ง adb shell และแสดงผลลัพธ์เป็น String

พารามิเตอร์
`command`	`String`: คำสั่ง adb shell ที่จะเรียกใช้

คิกรีเทิร์น
`String`	เอาต์พุตเชลล์

โยน
`DeviceNotAvailableException`

executeShellCommand

public void executeShellCommand (String command, 
                IShellOutputReceiver receiver, 
                long maxTimeToOutputShellResponse, 
                TimeUnit timeUnit, 
                int retryAttempts)

เรียกใช้คำสั่ง adb shell พร้อมพารามิเตอร์เพิ่มเติมเพื่อควบคุมลักษณะการทํางานของคําสั่ง

พารามิเตอร์
`command`	`String`: คำสั่ง adb shell ที่จะเรียกใช้
`receiver`	`IShellOutputReceiver`: `IShellOutputReceiver` สำหรับส่งเอาต์พุตเชลล์
`maxTimeToOutputShellResponse`	`long`: ระยะเวลาสูงสุดที่อนุญาตให้คําสั่งไม่แสดงผลลัพธ์ใดๆ หน่วยตามที่ระบุไว้ใน `timeUnit`
`timeUnit`	`TimeUnit`: หน่วยของ `maxTimeToOutputShellResponse`
`retryAttempts`	`int`: จำนวนครั้งสูงสุดในการลองใช้คำสั่งอีกครั้งหากดำเนินการไม่สำเร็จเนื่องจากมีข้อยกเว้น ระบบจะแสดง DeviceNotResponsiveException หากดำเนินการ `retryAttempts` ไม่สำเร็จ

โยน
`DeviceNotAvailableException`

executeShellCommand

public void executeShellCommand (String command, 
                IShellOutputReceiver receiver, 
                long maxTimeoutForCommand, 
                long maxTimeToOutputShellResponse, 
                TimeUnit timeUnit, 
                int retryAttempts)

พารามิเตอร์
`command`	`String`: คำสั่ง adb shell ที่จะเรียกใช้
`receiver`	`IShellOutputReceiver`: `IShellOutputReceiver` สำหรับส่งเอาต์พุตเชลล์
`maxTimeoutForCommand`	`long`: ระยะหมดเวลาที่นานที่สุดเพื่อให้คําสั่งทํางานเสร็จสมบูรณ์ หน่วยตามที่ระบุใน `timeUnit`
`maxTimeToOutputShellResponse`	`long`: ระยะเวลาสูงสุดที่อนุญาตให้คําสั่งไม่แสดงผลลัพธ์ใดๆ หน่วยตามที่ระบุไว้ใน `timeUnit`
`timeUnit`	`TimeUnit`: หน่วยของ `maxTimeToOutputShellResponse`
`retryAttempts`	`int`: จำนวนครั้งสูงสุดในการลองใช้คำสั่งอีกครั้งหากดำเนินการไม่สำเร็จเนื่องจากมีข้อยกเว้น ระบบจะแสดง DeviceNotResponsiveException หากดำเนินการ `retryAttempts` ไม่สำเร็จ

โยน
`DeviceNotAvailableException`

executeShellCommand

public void executeShellCommand (String command, 
                IShellOutputReceiver receiver)

ดำเนินการตามคำสั่ง adb shell ที่ระบุ โดยพยายามใหม่หลายครั้งหากคำสั่งไม่สำเร็จ

รูปแบบที่เรียบง่ายของ executeShellCommand(String, com.android.ddmlib.IShellOutputReceiver, long, TimeUnit, int) ที่มีค่าเริ่มต้น

พารามิเตอร์
`command`	`String`: คำสั่ง adb shell ที่จะเรียกใช้
`receiver`	`IShellOutputReceiver`: `IShellOutputReceiver` สำหรับส่งเอาต์พุตเชลล์

โยน
`DeviceNotAvailableException`

executeShellV2Command

public CommandResult executeShellV2Command (String cmd)

เมธอดตัวช่วยที่เรียกใช้คําสั่ง adb shell และแสดงผลลัพธ์เป็น CommandResult ที่สร้างขึ้นอย่างถูกต้องพร้อมเอาต์พุตสถานะคําสั่ง, stdout และ stderr

พารามิเตอร์
`cmd`	`String`: คำสั่งที่ควรเรียกใช้

คิกรีเทิร์น
`CommandResult`	ผลการค้นหาใน `CommandResult`

โยน
`DeviceNotAvailableException`

executeShellV2Command

public CommandResult executeShellV2Command (String cmd, 
                OutputStream pipeToOutput)

เมธอดตัวช่วยที่เรียกใช้คําสั่ง adb shell และแสดงผลลัพธ์เป็น CommandResult ที่สร้างขึ้นอย่างถูกต้องพร้อมเอาต์พุตสถานะคําสั่งและ stderr โดยระบบจะส่ง stdout ไปยังสตรีมที่ระบุ

พารามิเตอร์
`cmd`	`String`: คำสั่งที่ควรเรียกใช้
`pipeToOutput`	`OutputStream`: `ERROR(/OutputStream)` ซึ่งจะเป็นปลายทางที่ระบบจะเปลี่ยนเส้นทางเอาต์พุต std หรือเป็นค่า null

คิกรีเทิร์น
`CommandResult`	ผลการค้นหาใน `CommandResult`

โยน
`DeviceNotAvailableException`

executeShellV2Command

public CommandResult executeShellV2Command (String cmd, 
                File pipeAsInput)

พารามิเตอร์
`cmd`	`String`: คำสั่งที่ควรเรียกใช้
`pipeAsInput`	`File`: `ERROR(/File)` ที่ส่งผ่านเป็นอินพุตไปยังคําสั่ง หรือเป็นค่า Null

คิกรีเทิร์น
`CommandResult`	ผลการค้นหาใน `CommandResult`

โยน
`DeviceNotAvailableException`

executeShellV2Command

public CommandResult executeShellV2Command (String cmd, 
                long maxTimeoutForCommand, 
                TimeUnit timeUnit, 
                int retryAttempts)

พารามิเตอร์
`cmd`	`String`: คำสั่ง adb shell ที่จะเรียกใช้
`maxTimeoutForCommand`	`long`: ระยะหมดเวลาที่นานที่สุดเพื่อให้คําสั่งเสร็จสมบูรณ์ หน่วยตามที่ระบุใน `timeUnit`
`timeUnit`	`TimeUnit`: หน่วยของ `maxTimeToOutputShellResponse`
`retryAttempts`	`int`: จำนวนครั้งสูงสุดในการลองใช้คำสั่งอีกครั้งหากดำเนินการไม่สำเร็จเนื่องจากมีข้อยกเว้น ระบบจะแสดง DeviceNotResponsiveException หากดำเนินการ `retryAttempts` ไม่สำเร็จ

คิกรีเทิร์น
`CommandResult`

โยน
`DeviceNotAvailableException`

executeShellV2Command

public CommandResult executeShellV2Command (String cmd, 
                long maxTimeoutForCommand, 
                TimeUnit timeUnit)

พารามิเตอร์
`cmd`	`String`: คำสั่ง adb shell ที่จะเรียกใช้
`maxTimeoutForCommand`	`long`: ระยะหมดเวลาที่นานที่สุดเพื่อให้คําสั่งเสร็จสมบูรณ์ หน่วยตามที่ระบุใน `timeUnit`
`timeUnit`	`TimeUnit`: หน่วยของ `maxTimeToOutputShellResponse`

คิกรีเทิร์น
`CommandResult`

โยน
`DeviceNotAvailableException`

executeShellV2Command

public CommandResult executeShellV2Command (String cmd, 
                File pipeAsInput, 
                OutputStream pipeToOutput, 
                long maxTimeoutForCommand, 
                TimeUnit timeUnit, 
                int retryAttempts)

พารามิเตอร์
`cmd`	`String`: คำสั่ง adb shell ที่จะเรียกใช้
`pipeAsInput`	`File`: `ERROR(/File)` ที่ส่งผ่านเป็นอินพุตไปยังคําสั่ง หรือเป็นค่า Null
`pipeToOutput`	`OutputStream`: `ERROR(/OutputStream)` ซึ่งจะเป็นปลายทางที่ระบบจะเปลี่ยนเส้นทางเอาต์พุต std หรือเป็นค่า null
`maxTimeoutForCommand`	`long`: ระยะหมดเวลาที่นานที่สุดเพื่อให้คําสั่งเสร็จสมบูรณ์ หน่วยตามที่ระบุใน `timeUnit`
`timeUnit`	`TimeUnit`: หน่วยของ `maxTimeToOutputShellResponse`
`retryAttempts`	`int`: จำนวนครั้งสูงสุดในการลองใช้คำสั่งอีกครั้งหากดำเนินการไม่สำเร็จเนื่องจากมีข้อยกเว้น ระบบจะแสดง DeviceNotResponsiveException หากดำเนินการ `retryAttempts` ไม่สำเร็จ

คิกรีเทิร์น
`CommandResult`

โยน
`DeviceNotAvailableException`

executeShellV2Command

public CommandResult executeShellV2Command (String cmd, 
                File pipeAsInput, 
                OutputStream pipeToOutput, 
                OutputStream pipeToError, 
                long maxTimeoutForCommand, 
                TimeUnit timeUnit, 
                int retryAttempts)

พารามิเตอร์
`cmd`	`String`: คำสั่ง adb shell ที่จะเรียกใช้
`pipeAsInput`	`File`: `ERROR(/File)` ที่ส่งผ่านเป็นอินพุตไปยังคําสั่ง หรือเป็นค่า Null
`pipeToOutput`	`OutputStream`: `ERROR(/OutputStream)` ซึ่งจะเป็นปลายทางที่ระบบจะเปลี่ยนเส้นทางเอาต์พุต std หรือเป็นค่า null
`pipeToError`	`OutputStream`: `ERROR(/OutputStream)` ซึ่งระบบจะเปลี่ยนเส้นทางข้อผิดพลาด std หรือเป็นค่า null
`maxTimeoutForCommand`	`long`: ระยะหมดเวลาที่นานที่สุดเพื่อให้คําสั่งเสร็จสมบูรณ์ หน่วยตามที่ระบุใน `timeUnit`
`timeUnit`	`TimeUnit`: หน่วยของ `maxTimeToOutputShellResponse`
`retryAttempts`	`int`: จำนวนครั้งสูงสุดในการลองใช้คำสั่งอีกครั้งหากดำเนินการไม่สำเร็จเนื่องจากมีข้อยกเว้น ระบบจะแสดง DeviceNotResponsiveException หากดำเนินการ `retryAttempts` ไม่สำเร็จ

คิกรีเทิร์น
`CommandResult`

โยน
`DeviceNotAvailableException`

fastbootWipePartition

public CommandResult fastbootWipePartition (String partition)

เมธอดตัวช่วยซึ่งล้างพาร์ติชันของอุปกรณ์

หาก getUseFastbootErase() เป็น true ระบบจะใช้การลบข้อมูลด้วย Fastboot เพื่อล้างข้อมูลพาร์ติชัน จากนั้นอุปกรณ์จะต้องสร้างระบบไฟล์ในครั้งถัดไปที่บูต ไม่เช่นนั้น ระบบจะใช้การฟอร์แมต Fastboot ซึ่งจะสร้างระบบไฟล์ใหม่ในอุปกรณ์

ควรใช้เมื่ออุปกรณ์อยู่ในโหมด Fastboot อยู่แล้ว

พารามิเตอร์
`partition`	`String`: พาร์ติชันที่จะล้างข้อมูล

คิกรีเทิร์น
`CommandResult`	CommandResult ที่มีเอาต์พุตของคําสั่ง

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getActiveApexes

public  getActiveApexes ()

ดึงข้อมูลเกี่ยวกับ APEX ที่เปิดใช้งานในอุปกรณ์

คิกรีเทิร์น
	เปิดใช้งานแล้ว `ERROR(/Set)` จาก `ApexInfo` รหัสในอุปกรณ์

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getAllSettings

public  getAllSettings (String namespace)

แสดงผลคู่คีย์-ค่าของเนมสเปซที่ขอ

พารามิเตอร์
`namespace`	`String`: ต้องเป็นค่าใดค่าหนึ่งต่อไปนี้ {"system", "secure", "global"}

คิกรีเทิร์น
	แผนที่ของคู่คีย์-ค่า Null หากระบบไม่รองรับเนมสเปซ

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getAllocationState

public DeviceAllocationState getAllocationState ()

แสดงสถานะการจัดสรรปัจจุบันของอุปกรณ์

คิกรีเทิร์น
`DeviceAllocationState`

getAndroidId

public String getAndroidId (int userId)

ค้นหาและแสดงผล android-id ที่เชื่อมโยงกับ userId หรือแสดงผล Null หากไม่พบ

พารามิเตอร์
`userId`	`int`

คิกรีเทิร์น
`String`

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getAndroidIds

public  getAndroidIds ()

สร้างแผนที่ของรหัส Android ที่พบซึ่งตรงกับรหัสผู้ใช้ เราไม่รับประกันว่ารหัสผู้ใช้แต่ละรหัสจะพบรหัส Android ที่เชื่อมโยงกันในฟังก์ชันนี้ ดังนั้นรหัสผู้ใช้บางรหัสจึงอาจตรงกับค่า Null

คิกรีเทิร์น
	แมปรหัส Android ที่พบรหัสผู้ใช้ที่ตรงกัน

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getApiLevel

public int getApiLevel ()

รับระดับ API ของอุปกรณ์ ค่าเริ่มต้นคือ UNKNOWN_API_LEVEL

คิกรีเทิร์น
`int`	จำนวนเต็มที่ระบุระดับ API ของอุปกรณ์

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getAppPackageInfo

public PackageInfo getAppPackageInfo (String packageName)

ดึงข้อมูลเกี่ยวกับแพ็กเกจที่ติดตั้งในอุปกรณ์

พารามิเตอร์
`packageName`	`String`

คิกรีเทิร์น
`PackageInfo`	`PackageInfo` หรือ `null` หากเรียกข้อมูลไม่ได้

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getAppPackageInfos

public  getAppPackageInfos ()

ดึงข้อมูลแพ็กเกจที่ติดตั้งในอุปกรณ์

คิกรีเทิร์น
	`ERROR(/List)` ของ `PackageInfo` ที่ติดตั้งในอุปกรณ์

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getBasebandVersion

public String getBasebandVersion ()

วิธีการที่สะดวกในการรับเวอร์ชันเบสแบนด์ (วิทยุ) ของอุปกรณ์นี้ การดูเวอร์ชันวิทยุจะเจาะจงอุปกรณ์ ดังนั้นจึงอาจแสดงข้อมูลที่ถูกต้องสำหรับอุปกรณ์บางเครื่อง วิธีการนี้ใช้พร็อพเพอร์ตี้ gsm.version.baseband เพื่อแสดงข้อมูลเวอร์ชันที่ถูกต้อง ข้อมูลนี้ไม่ถูกต้องสำหรับอุปกรณ์ CDMA บางรุ่น และเวอร์ชันที่แสดงที่นี่อาจไม่ตรงกับเวอร์ชันที่รายงานจาก Fastboot และอาจไม่แสดงเวอร์ชันของวิทยุ CDMA TL;DR วิธีการนี้จะรายงานเฉพาะเวอร์ชันที่ถูกต้องหากพร็อพเพอร์ตี้ gsm.version.baseband เหมือนกับเวอร์ชันที่ fastboot getvar version-baseband แสดง

คิกรีเทิร์น
`String`	เวอร์ชันเบสแบนด์ `String` หรือ `null` หากไม่สามารถระบุได้ (อุปกรณ์ไม่มีวิทยุหรืออ่านสตริงเวอร์ชันไม่ได้)

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getBattery

public Integer getBattery ()

แสดงระดับแบตเตอรี่ปัจจุบันของอุปกรณ์ หรือ Null หากไม่มีระดับแบตเตอรี่

คิกรีเทิร์น
`Integer`

getBooleanProperty

public boolean getBooleanProperty (String name, 
                boolean defaultValue)

แสดงผลค่าบูลีนของพร็อพเพอร์ตี้ที่ระบุ

พารามิเตอร์
`name`	`String`: ชื่อพร็อพเพอร์ตี้
`defaultValue`	`boolean`: ค่าเริ่มต้นที่จะแสดงหากพร็อพเพอร์ตี้ว่างเปล่าหรือไม่มีอยู่

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากพร็อพเพอร์ตี้มีค่า `"1"`, `"y"`, `"yes"`, `"on"` หรือ `"true"`, `false` หากพร็อพเพอร์ตี้มีค่า `"0"`, `"n"`, `"no"`, `"off"`, `"false"` หรือ `defaultValue` มิเช่นนั้น

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getBootHistory

public  getBootHistory ()

เมธอด Helper จะรวบรวมแผนที่ประวัติการบูตพร้อมเวลาบูตและเหตุผลในการบูต

คิกรีเทิร์น
	แผนที่ของเวลาบูต (เวลา UTC เป็นวินาทีนับตั้งแต่ Epoch) และเหตุผลในการบูต

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getBootHistorySince

public  getBootHistorySince (long utcEpochTime, 
                TimeUnit timeUnit)

เมธอดตัวช่วยจะรวบรวมแผนที่ประวัติการบูตพร้อมเวลาบูตและเหตุผลในการบูตนับจากเวลาที่ระบุนับจากจุดเริ่มต้นจากอุปกรณ์และหน่วยเวลาที่ระบุ คุณสามารถรับ utcEpochTime ของอุปกรณ์ปัจจุบันเป็นมิลลิวินาทีได้ด้วยเมธอด getDeviceDate()

พารามิเตอร์
`utcEpochTime`	`long`: เวลาของอุปกรณ์นับตั้งแต่ Epoch
`timeUnit`	`TimeUnit`: หน่วยเวลา `TimeUnit`

คิกรีเทิร์น
	แผนที่ของเวลาบูต (เวลา UTC เป็นวินาทีนับตั้งแต่ Epoch) และเหตุผลในการบูต

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getBootloaderVersion

public String getBootloaderVersion ()

วิธีการที่สะดวกในการรับเวอร์ชัน Bootloader ของอุปกรณ์นี้

จะพยายามดึงข้อมูลเวอร์ชัน Bootloader จากสถานะปัจจุบันของอุปกรณ์ (เช่น หากอุปกรณ์อยู่ในโหมด Fastboot ระบบจะพยายามดึงข้อมูลเวอร์ชันจาก Fastboot)

คิกรีเทิร์น
`String`	เวอร์ชัน `String` bootloader หรือ `null` หากไม่พบ

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getBugreport

public InputStreamSource getBugreport ()

เรียกข้อมูลรายงานข้อบกพร่องจากอุปกรณ์

การติดตั้งใช้งานนี้รับประกันว่าจะยังคงทำงานต่อไปในอุปกรณ์ที่ไม่มีการ์ด SD (หรือในกรณีที่ยังไม่ได้ต่อเชื่อมการ์ด SD)

คิกรีเทิร์น
`InputStreamSource`	`InputStreamSource` ซึ่งจะสร้างเนื้อหารายงานข้อบกพร่องตามคําขอ ในกรณีที่ไม่สําเร็จ `InputStreamSource` จะสร้าง `ERROR(/InputStream)` ว่างเปล่า

getBugreportz

public InputStreamSource getBugreportz ()

เรียกข้อมูล bugreportz จากอุปกรณ์ ไฟล์ข้อบกพร่องรูปแบบ ZIP มีไฟล์ข้อบกพร่องหลักและไฟล์บันทึกอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์สำหรับการแก้ไขข้อบกพร่อง

รองรับเฉพาะ "adb version" > 1.0.36

คิกรีเทิร์น
`InputStreamSource`	`InputStreamSource` ของไฟล์ ZIP ที่มี bugreportz, แสดงผลเป็น null ในกรณีที่ดำเนินการไม่สำเร็จ

getBuildAlias

public String getBuildAlias ()

เรียกข้อมูลแทนของบิลด์ที่อุปกรณ์ใช้อยู่

โดยปกติแล้วชื่อแทนของบิลด์จะเป็นสตริงที่อ่านง่ายกว่ารหัสบิลด์ (โดยปกติแล้วจะเป็นตัวเลขสำหรับบิลด์ Nexus) ตัวอย่างเช่น เวอร์ชันสุดท้ายของ Android 4.2 มีชื่อแทนของบิลด์ JDQ39 และรหัสบิลด์ 573038

คิกรีเทิร์น
`String`	โดยใช้ชื่อแทนบิลด์หรือใช้รหัสบิลด์แทนหากเรียกข้อมูลไม่ได้

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getBuildFlavor

public String getBuildFlavor ()

ดึงข้อมูล Flavor ของบิลด์สำหรับอุปกรณ์

คิกรีเทิร์น
`String`	รสชาติของบิลด์หรือค่าว่างหากดึงข้อมูลไม่ได้

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getBuildId

public String getBuildId ()

เรียกข้อมูลบิลด์ที่อุปกรณ์ใช้อยู่

คิกรีเทิร์น
`String`	รหัสบิลด์หรือ `IBuildInfo.UNKNOWN_BUILD_ID` หากเรียกข้อมูลไม่ได้

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getBuildSigningKeys

public String getBuildSigningKeys ()

แสดงผลประเภทคีย์ที่ใช้รับรองรูปภาพอุปกรณ์

โดยทั่วไปอุปกรณ์ Android อาจได้รับการรับรองด้วยคีย์ทดสอบ (เช่น ใน AOSP) หรือคีย์รุ่น (ควบคุมโดยผู้ผลิตอุปกรณ์แต่ละราย)

คิกรีเทิร์น
`String`	คีย์การรับรองหากพบ มิเช่นนั้นจะเป็นค่า Null

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getCachedDeviceDescriptor

public DeviceDescriptor getCachedDeviceDescriptor ()

แสดง DeviceDescriptor ที่แคชไว้หากมีการจองอุปกรณ์ไว้ มิเช่นนั้นระบบจะแสดง DeviceDescriptor ปัจจุบัน

คิกรีเทิร์น
`DeviceDescriptor`

getCachedDeviceDescriptor

public DeviceDescriptor getCachedDeviceDescriptor (boolean shortDescriptor)

พารามิเตอร์
`shortDescriptor`	`boolean`: กำหนดให้คำอธิบายมีข้อมูลขั้นต่ำเท่านั้นหรือไม่

คิกรีเทิร์น
`DeviceDescriptor`

getChildren

public String[] getChildren (String path)

ทางเลือกในการใช้ IFileEntry ที่บางครั้งอาจใช้ไม่ได้เนื่องจากสิทธิ์

พารามิเตอร์
`path`	`String`: คือเส้นทางในอุปกรณ์ที่จะทำการค้นหา

คิกรีเทิร์น
`String[]`	อาร์เรย์สตริงที่มีไฟล์ทั้งหมดในเส้นทางบนอุปกรณ์

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getConnection

public AbstractConnection getConnection ()

การเชื่อมต่อปัจจุบันที่เชื่อมโยงกับอุปกรณ์

คิกรีเทิร์น
`AbstractConnection`

getContentProvider

public ContentProviderHandler getContentProvider (int userId)

แสดงผล ContentProviderHandler หรือ Null หากไม่พร้อมใช้งาน

ผู้ให้บริการเนื้อหาสามารถนำมาใช้ซ้ำได้หากสร้างขึ้นก่อนหน้านี้ด้วย userId เดียวกัน

พารามิเตอร์
`userId`	`int`: รหัสผู้ใช้สำหรับเริ่มต้นใช้งานผู้ให้บริการเนื้อหา

คิกรีเทิร์น
`ContentProviderHandler`

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getCurrentFoldableState

public DeviceFoldableState getCurrentFoldableState ()

แสดงสถานะการพับของอุปกรณ์ปัจจุบันหรือค่าว่างหากเกิดปัญหาบางอย่าง

คิกรีเทิร์น
`DeviceFoldableState`

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getCurrentUser

public int getCurrentUser ()

แสดงผลรหัสของผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน ในกรณีที่เกิดข้อผิดพลาด ระบบจะแสดงผล -10000

คิกรีเทิร์น
`int`

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getDeviceClass

public String getDeviceClass ()

รับคลาสอุปกรณ์

คิกรีเทิร์น
`String`	คลาสอุปกรณ์ `String`

getDeviceDate

public long getDeviceDate ()

แสดงผลวันที่ของอุปกรณ์เป็นมิลลิวินาทีนับจากวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1970

คิกรีเทิร์น
`long`	วันที่ของอุปกรณ์ในรูปแบบอีพอค

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getDeviceDescriptor

public DeviceDescriptor getDeviceDescriptor ()

แสดงผล DeviceDescriptor จากข้อมูลอุปกรณ์เพื่อรับข้อมูลโดยไม่ต้องส่งออบเจ็กต์อุปกรณ์จริง

คิกรีเทิร์น
`DeviceDescriptor`

getDeviceDescriptor

public DeviceDescriptor getDeviceDescriptor (boolean shortDescriptor)

พารามิเตอร์
`shortDescriptor`	`boolean`: กำหนดให้คำอธิบายมีข้อมูลขั้นต่ำเท่านั้นหรือไม่

คิกรีเทิร์น
`DeviceDescriptor`

getDeviceState

public TestDeviceState getDeviceState ()

รับสถานะของอุปกรณ์

คิกรีเทิร์น
`TestDeviceState`

getDeviceTimeOffset

public long getDeviceTimeOffset (Date date)

ตัวช่วยในการหาเวลาที่แตกต่างกันระหว่างอุปกรณ์กับ ERROR(/Date) ที่ระบุ ใช้เวลา Epoch ภายใน

พารามิเตอร์
`date`	`Date`

คิกรีเทิร์น
`long`	ความแตกต่างเป็นมิลลิวินาที

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getEmulatorOutput

public InputStreamSource getEmulatorOutput ()

รับสตรีมของ stdout และ stderr ของโปรแกรมจำลอง

คิกรีเทิร์น
`InputStreamSource`	เอาต์พุตของโปรแกรมจำลอง

getEmulatorProcess

public Process getEmulatorProcess ()

แสดง Process ที่สอดคล้องกับโปรแกรมจำลองนี้

คิกรีเทิร์น
`Process`	`Process` หรือ `null`

getExecuteShellCommandLog

public final File getExecuteShellCommandLog ()

บันทึกที่มีบันทึก executeShellCommand(String) ทั้งหมด

คิกรีเทิร์น
`File`

getExternalStoreFreeSpace

public long getExternalStoreFreeSpace ()

เมธอดตัวช่วยในการระบุปริมาณพื้นที่ว่างในอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอก

คิกรีเทิร์น
`long`	จำนวนพื้นที่ว่างใน KB

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getFastbootPath

public String getFastbootPath ()

แสดงผลเส้นทางของไบนารี fastboot ที่ใช้อยู่ ยังคงต้องให้ isFastbootEnabled() เป็น "จริง" เพื่อเปิดใช้ฟังก์ชันการบูตด่วน

คิกรีเทิร์น
`String`

getFastbootProductType

public String getFastbootProductType ()

วิธีการที่สะดวกในการรับประเภทผลิตภัณฑ์ของอุปกรณ์นี้เมื่ออยู่ในโหมด Fastboot

ใช้วิธีนี้ในกรณีที่อุปกรณ์ควรอยู่ในโหมด Fastboot เท่านั้น ในกรณีนี้ ตัวแปรนี้จะปลอดภัยกว่าเมธอด getProductType() ทั่วไป เนื่องจาก ITestDevice จะรู้วิธีกู้คืนอุปกรณ์เป็น Fastboot หากอุปกรณ์อยู่ในสถานะที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ตอบสนอง

คิกรีเทิร์น
`String`	ชื่อประเภทผลิตภัณฑ์ `String` หรือ `null` หากไม่สามารถระบุได้

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getFastbootProductVariant

public String getFastbootProductVariant ()

ใช้วิธีนี้ในกรณีที่อุปกรณ์ควรอยู่ในโหมด Fastboot เท่านั้น ในกรณีนี้ ตัวแปรนี้ปลอดภัยกว่าเมธอด getProductType() ทั่วไป เนื่องจาก ITestDevice จะรู้วิธีกู้คืนอุปกรณ์เป็น Fastboot หากอุปกรณ์อยู่ในสถานะที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ตอบสนอง

คิกรีเทิร์น
`String`	ชื่อประเภทผลิตภัณฑ์ `String` หรือ `null` หากไม่สามารถระบุได้

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getFastbootSerialNumber

public String getFastbootSerialNumber ()

แสดงผลหมายเลขซีเรียลของโหมด Fastboot

คิกรีเทิร์น
`String`

getFastbootVariable

public String getFastbootVariable (String variableName)

เรียกค่าตัวแปร fastboot ที่ระบุจากอุปกรณ์

พารามิเตอร์
`variableName`	`String`: ชื่อตัวแปร

คิกรีเทิร์น
`String`	ค่าพร็อพเพอร์ตี้หรือ `null` หากไม่มี

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getFastbootVersion

public String getFastbootVersion ()

แสดงผลสตริงเวอร์ชันของไบนารี fastboot ที่ใช้อยู่ หรือเป็นค่า Null หากเกิดข้อผิดพลาด

คิกรีเทิร์น
`String`

getFileEntry

public IFileEntry getFileEntry (String path)

เรียกข้อมูลอ้างอิงไปยังไฟล์ระยะไกลในอุปกรณ์

พารามิเตอร์
`path`	`String`: เส้นทางไฟล์ที่จะดึงข้อมูล อาจเป็นเส้นทางแบบสัมบูรณ์หรือเส้นทางแบบสัมพัทธ์กับ "/" (เช่น ระบบรองรับทั้งไวยากรณ์ "/system" และ "system")

คิกรีเทิร์น
`IFileEntry`	`IFileEntry` หรือ `null` หากไม่พบไฟล์ใน `path` ที่ระบุ

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getFileEntry

public IFileEntry getFileEntry (FileListingService.FileEntry entry)

เครื่องมือช่วยที่ไม่เป็นทางการสำหรับรับ FileEntry จากเส้นทางที่ไม่ใช่รูท FIXME: ปรับโครงสร้างระบบ FileEntry เพื่อให้พร้อมใช้งานจากเส้นทางใดก็ได้ (แม้ไม่ใช่รูท)

พารามิเตอร์
`entry`	`FileListingService.FileEntry`: `FileEntry` ไม่จำเป็นต้องเป็นรูทตามที่ Ddmlib กำหนด

คิกรีเทิร์น
`IFileEntry`	FileEntryWrapper ที่แสดง FileEntry

โยน
	com.android.tradefed.device.DeviceNotAvailableException
`DeviceNotAvailableException`

getFoldableStates

public  getFoldableStates ()

แสดงรายการสถานะแบบพับได้ในอุปกรณ์ ดูได้ด้วย "cmd device_state print-states"

คิกรีเทิร์น

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getIDevice

public IDevice getIDevice ()

แสดงการอ้างอิงไปยัง ddmlib IDevice ที่เชื่อมโยง

DDMS อาจจัดสรร IDevice ใหม่ทุกครั้งที่อุปกรณ์ยกเลิกการเชื่อมต่อและเชื่อมต่อจาก adb อีกครั้ง ดังนั้น ผู้เรียกใช้ไม่ควรเก็บการอ้างอิง IDevice ไว้ เนื่องจากการอ้างอิงนั้นอาจล้าสมัย

คิกรีเทิร์น
`IDevice`	`IDevice`

getInstalledPackageNames

public  getInstalledPackageNames ()

ดึงข้อมูลชื่อแพ็กเกจแอปพลิเคชันที่มีอยู่ในอุปกรณ์

คิกรีเทิร์น
	`ERROR(/Set)` จาก `String` ชื่อแพ็กเกจที่ติดตั้งในอุปกรณ์อยู่ในขณะนี้

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getIntProperty

public long getIntProperty (String name, 
                long defaultValue)

แสดงผลค่าจำนวนเต็มของพร็อพเพอร์ตี้ที่ระบุจากอุปกรณ์

พารามิเตอร์
`name`	`String`: ชื่อพร็อพเพอร์ตี้
`defaultValue`	`long`: ค่าเริ่มต้นที่จะแสดงหากพร็อพเพอร์ตี้ว่างเปล่าหรือไม่มีอยู่

คิกรีเทิร์น
`long`	ค่าพร็อพเพอร์ตี้หรือ `defaultValue` หากพร็อพเพอร์ตี้ว่างเปล่า ไม่มีอยู่ หรือไม่มีค่าจำนวนเต็ม

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getIpAddress

public String getIpAddress ()

รับที่อยู่ IP ของอุปกรณ์

คิกรีเทิร์น
`String`	ที่อยู่ IP ของอุปกรณ์ หรือ `null` หากอุปกรณ์ไม่มีที่อยู่ IP

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getKeyguardState

public KeyguardControllerState getKeyguardState ()

แสดงผลออบเจ็กต์เพื่อรับสถานะปัจจุบันของ Keyguard หรือแสดงค่า Null หากอุปกรณ์ไม่รองรับ

คิกรีเทิร์น
`KeyguardControllerState`	`KeyguardControllerState` ที่มีภาพรวมสถานะของ Keyguard และแสดงผล Null หากระบบไม่รองรับการค้นหา Keyguard

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getLastExpectedRebootTimeMillis

public long getLastExpectedRebootTimeMillis ()

แสดงเวลาล่าสุดที่ Tradefed API ทริกเกอร์การรีบูตเป็นมิลลิวินาทีนับจาก EPOCH ตามที่ได้มาจาก System.currentTimeMillis()

คิกรีเทิร์น
`long`

getLaunchApiLevel

public int getLaunchApiLevel ()

ดูระดับ API ที่เปิดตัวครั้งแรกของอุปกรณ์ ค่าเริ่มต้นคือ UNKNOWN_API_LEVEL

คิกรีเทิร์น
`int`	จำนวนเต็มซึ่งระบุระดับ API ที่เปิดตัวครั้งแรกของอุปกรณ์

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getLogcat

public InputStreamSource getLogcat ()

ดึงข้อมูลสตรีมภาพรวมของข้อมูล logcat

ทำงานได้ 2 โหมด ได้แก่

หากกำลังบันทึก Logcat ในเบื้องหลัง ระบบจะแสดงผลเนื้อหาปัจจุบันของการบันทึก Logcat ในเบื้องหลังได้สูงสุด TestDeviceOptions.getMaxLogcatDataSize() ไบต์

ไม่เช่นนั้น ระบบจะแสดงผลข้อมูล Logcat แบบคงที่หากอุปกรณ์ตอบสนองอยู่

คิกรีเทิร์น
`InputStreamSource`

getLogcat

public InputStreamSource getLogcat (int maxBytes)

ดึงข้อมูลสตรีมสแนปชอตของข้อมูล Logcat maxBytes รายการล่าสุดที่บันทึกไว้

มีประโยชน์ในกรณีที่คุณต้องการจับภาพสแนปชอตของข้อมูลบันทึกที่บันทึกไว้บ่อยๆ โดยไม่ก่อให้เกิดการเสียพื้นที่ดิสก์จำนวนมากจากการรับสแนปชอต getLogcat() ทั้งหมด

พารามิเตอร์
`maxBytes`	`int`: จํานวนข้อมูลสูงสุดที่จะแสดง ควรเป็นจำนวนที่หน่วยความจํารองรับได้

คิกรีเทิร์น
`InputStreamSource`

getLogcatDump

public InputStreamSource getLogcatDump ()

รับการถ่ายโอนข้อมูล Logcat ปัจจุบันของอุปกรณ์ ซึ่งต่างจาก getLogcat() ตรงที่จะแสดงผลลัพธ์เป็นไฟล์บันทึกแบบคงที่ของ Logcat เสมอ

ข้อเสียคือระบบจะไม่แสดงผลหากเข้าถึงอุปกรณ์ไม่ได้

คิกรีเทิร์น
`InputStreamSource`	`InputStreamSource` ของข้อมูลบันทึก ระบบจะแสดงผลสตรีมว่างหากจับข้อมูลบันทึกไม่ได้

getLogcatSince

public InputStreamSource getLogcatSince (long date)

ดึงข้อมูลสตรีมสแนปชอตของข้อมูลบันทึกที่บันทึกไว้โดยเริ่มจากวันที่ที่ระบุ คุณควรใช้เวลาในอุปกรณ์ getDeviceDate()

พารามิเตอร์
`date`	`long`: เป็นมิลลิวินาทีนับจากรูปแบบยุคเริ่มต้นของเวลาที่จะเริ่มสแนปชอตจนถึงปัจจุบัน (รับได้โดยใช้ "date +%s")

คิกรีเทิร์น
`InputStreamSource`

getMacAddress

public String getMacAddress ()

แสดงผลที่อยู่ MAC ของอุปกรณ์ หรือแสดงผลเป็น Null หากค้นหาจากอุปกรณ์ไม่สำเร็จ

คิกรีเทิร์น
`String`

getMainUserId

public Integer getMainUserId ()

แสดงผลรหัสผู้ใช้หลัก

คิกรีเทิร์น
`Integer`	userId ของผู้ใช้หลัก หากมี และค่าว่างหากไม่มีผู้ใช้หลัก

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getMainlineModuleInfo

public  getMainlineModuleInfo ()

รับข้อมูลเกี่ยวกับโมดูลหลักที่ติดตั้งในอุปกรณ์

คิกรีเทิร์น
	`ERROR(/Set)` ของโมดูลหลัก `String` ที่ติดตั้งอยู่ในอุปกรณ์ในขณะนี้

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getMaxNumberOfRunningUsersSupported

public int getMaxNumberOfRunningUsersSupported ()

รับจำนวนผู้ใช้สูงสุดที่รองรับการทำงานพร้อมกัน ค่าเริ่มต้นคือ 0

คิกรีเทิร์น
`int`	จำนวนเต็มซึ่งระบุจํานวนผู้ใช้ที่ทํางานพร้อมกัน

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getMaxNumberOfUsersSupported

public int getMaxNumberOfUsersSupported ()

ดูจำนวนผู้ใช้สูงสุดที่รองรับ ค่าเริ่มต้นคือ 0

คิกรีเทิร์น
`int`	จำนวนเต็มซึ่งระบุจํานวนผู้ใช้ที่รองรับ

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getMicrodroidProcess

public Process getMicrodroidProcess ()

คิกรีเทิร์น
`Process`	แสดงผลกระบวนการของ Microdroid VM หาก TestDevice ไม่ใช่ Microdroid ระบบจะแสดงผลค่าว่าง

getMonitor

public IDeviceStateMonitor getMonitor ()

ส่งคืน IDeviceStateMonitor ที่เชื่อมโยงกับอุปกรณ์

คิกรีเทิร์น
`IDeviceStateMonitor`

getMountPoint

public String getMountPoint (String mountName)

แสดงผลจุดต่อเชื่อม

ค้นหาอุปกรณ์โดยตรงหากไม่มีข้อมูลแคชใน IDevice

สิ่งที่ต้องทํา: ย้ายลักษณะการทํางานนี้ไปยัง IDevice.getMountPoint(String)

พารามิเตอร์
`mountName`	`String`: ชื่อของจุดต่อเชื่อม

คิกรีเทิร์น
`String`	จุดต่อเชื่อมหรือ `null`

getMountPointInfo

public ITestDevice.MountPointInfo getMountPointInfo (String mountpoint)

แสดงผล MountPointInfo ที่สอดคล้องกับเส้นทางจุดต่อเชื่อมที่ระบุ หรือ null หากเส้นทางนั้นไม่มีสิ่งที่ต่อเชื่อมอยู่หรือไม่ปรากฏใน /proc/mounts เป็นจุดต่อเชื่อม

พารามิเตอร์
`mountpoint`	`String`

คิกรีเทิร์น
`ITestDevice.MountPointInfo`	`ERROR(/List)` ของ `MountPointInfo` ที่มีข้อมูลใน "/proc/mounts"

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getMountPointInfo

public  getMountPointInfo ()

แสดงผลข้อมูลใน /proc/mounts บนอุปกรณ์เวอร์ชันที่แยกวิเคราะห์แล้ว

คิกรีเทิร์น
	`ERROR(/List)` ของ `MountPointInfo` ที่มีข้อมูลใน "/proc/mounts"

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getOptions

public TestDeviceOptions getOptions ()

ดึงข้อมูลตัวเลือกการทดสอบสำหรับอุปกรณ์

คิกรีเทิร์น
`TestDeviceOptions`	`TestDeviceOptions` เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ที่ทดสอบ

getPartitionFreeSpace

public long getPartitionFreeSpace (String partition)

เมธอดตัวช่วยในการระบุปริมาณพื้นที่ว่างบนพาร์ติชันของอุปกรณ์

พารามิเตอร์
`partition`	`String`

คิกรีเทิร์น
`long`	จำนวนพื้นที่ว่างใน KB

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getPrimaryUserId

public Integer getPrimaryUserId ()

แสดงผลรหัสผู้ใช้หลัก

คิกรีเทิร์น
`Integer`	userId ของผู้ใช้หลัก หากมี และค่าว่างหากไม่มีผู้ใช้หลัก

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getProcessByName

public ProcessInfo getProcessByName (String processName)

เมธอดตัวช่วยจะเรียกใช้คําสั่ง "pidof" และ "stat" และแสดงผลออบเจ็กต์ ProcessInfo ที่มี PID และเวลาเริ่มต้นของกระบวนการที่ระบุ

พารามิเตอร์
`processName`	`String`: สตริงชื่อกระบวนการ

คิกรีเทิร์น
`ProcessInfo`	ProcessInfo ของ processName ที่ระบุ

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getProcessPid

public String getProcessPid (String process)

แสดง PID ของบริการหรือค่าว่างหากเกิดข้อผิดพลาด

พารามิเตอร์
`process`	`String`: สตริงชื่อกระบวนการ

คิกรีเทิร์น
`String`

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getProductType

public String getProductType ()

วิธีการที่สะดวกในการรับประเภทผลิตภัณฑ์ของอุปกรณ์นี้

วิธีการนี้จะใช้ได้หากอุปกรณ์อยู่ในโหมด adb หรือ Fastboot

คิกรีเทิร์น
`String`	ชื่อประเภทผลิตภัณฑ์ `String` จะไม่เป็นค่าว่าง

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getProductVariant

public String getProductVariant ()

วิธีการที่สะดวกในการรับผลิตภัณฑ์ย่อยของอุปกรณ์นี้

วิธีการนี้จะใช้ได้หากอุปกรณ์อยู่ในโหมด adb หรือ Fastboot

คิกรีเทิร์น
`String`	ชื่อผลิตภัณฑ์ย่อย `String` หรือ `null` หากไม่สามารถระบุได้

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getProperty

public String getProperty (String name)

ดึงค่าพร็อพเพอร์ตี้ที่ระบุจากอุปกรณ์

พารามิเตอร์
`name`	`String`: ชื่อพร็อพเพอร์ตี้

คิกรีเทิร์น
`String`	ค่าพร็อพเพอร์ตี้หรือ `null` หากไม่มี

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getRecoveryMode

public ITestDevice.RecoveryMode getRecoveryMode ()

ดูโหมดการกู้คืนปัจจุบันที่ใช้กับอุปกรณ์

คิกรีเทิร์น
`ITestDevice.RecoveryMode`	โหมดการกู้คืนปัจจุบันที่ใช้กับอุปกรณ์

getScreenshot

public InputStreamSource getScreenshot (long displayId)

จับภาพหน้าจอจากรหัสการแสดงผลของอุปกรณ์ รูปแบบเป็น PNG

TODO: ขยายการใช้งานด้านบนเพื่อรองรับ "format" และ "rescale"

พารามิเตอร์
`displayId`	`long`: รหัสการแสดงผลของหน้าจอที่จะรับภาพหน้าจอ

คิกรีเทิร์น
`InputStreamSource`	`InputStreamSource` ของภาพหน้าจอในรูปแบบ หรือ `null` หากถ่ายภาพหน้าจอไม่สำเร็จ

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getScreenshot

public InputStreamSource getScreenshot (String format)

จับภาพหน้าจอจากอุปกรณ์ ขอแนะนําให้ใช้ getScreenshot(format) แทนโดยใช้การเข้ารหัส JPEG เพื่อให้ไฟล์มีขนาดเล็กลง

พารามิเตอร์
`format`	`String`: รองรับ PNG, JPEG

คิกรีเทิร์น
`InputStreamSource`	`InputStreamSource` ของภาพหน้าจอในรูปแบบ หรือ `null` หากถ่ายภาพหน้าจอไม่สำเร็จ

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getScreenshot

public InputStreamSource getScreenshot (String format, 
                boolean rescale)

จับภาพหน้าจอจากอุปกรณ์ ขอแนะนําให้ใช้ getScreenshot(String) แทนกับการเข้ารหัส JPEG เพื่อให้ไฟล์มีขนาดเล็กลง

พารามิเตอร์
`format`	`String`: รองรับ PNG, JPEG
`rescale`	`boolean`: หากภาพหน้าจอควรปรับขนาดใหม่เพื่อลดขนาดของรูปภาพที่ได้

คิกรีเทิร์น
`InputStreamSource`	`InputStreamSource` ของภาพหน้าจอในรูปแบบ หรือ `null` หากถ่ายภาพหน้าจอไม่สำเร็จ

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getScreenshot

public InputStreamSource getScreenshot ()

จับภาพหน้าจอจากอุปกรณ์

คิกรีเทิร์น
`InputStreamSource`	`InputStreamSource` ของภาพหน้าจอในรูปแบบ png หรือ `null` หากถ่ายภาพหน้าจอไม่สำเร็จ

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getSerialNumber

public String getSerialNumber ()

วิธีการที่สะดวกในการรับหมายเลขซีเรียลของอุปกรณ์นี้

คิกรีเทิร์น
`String`	หมายเลขซีเรียล `String`

getSetting

public String getSetting (int userId, 
                String namespace, 
                String key)

แสดงค่าของการตั้งค่าที่ขอ namespace ต้องเป็นค่าใดค่าหนึ่งต่อไปนี้ {"system", "secure", "global"}

พารามิเตอร์
`userId`	`int`
`namespace`	`String`
`key`	`String`

คิกรีเทิร์น
`String`	ค่าที่เชื่อมโยงกับ namespace:key ของผู้ใช้ Null หากไม่พบ

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getSetting

public String getSetting (String namespace, 
                String key)

ดู getSetting(int, String, String) และดำเนินการกับผู้ใช้ระบบ

พารามิเตอร์
`namespace`	`String`
`key`	`String`

คิกรีเทิร์น
`String`

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getSimOperator

public String getSimOperator ()

แสดงผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือหรือค่า Null หากไม่มีข้อมูลหรือหากอุปกรณ์ไม่พร้อมใช้งาน

คิกรีเทิร์น
`String`

getSimState

public String getSimState ()

แสดงสถานะซิมการ์ดหรือค่าว่างหากไม่พร้อมใช้งานหรืออุปกรณ์ไม่พร้อมใช้งาน

คิกรีเทิร์น
`String`

getTombstones

public  getTombstones ()

ดึงข้อมูลและแสดงรายการรายการที่ลบไปแล้วจากอุปกรณ์ ต้องเข้าถึงสิทธิ์รูท

วิธีการนี้เป็นการดำเนินการที่น่าจะดีที่สุด ดังนั้นหากดึงข้อมูลรายการใดรายการหนึ่งไม่สำเร็จไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม รายการดังกล่าวก็จะหายไปจากรายการ เฉพาะ DeviceNotAvailableException เท่านั้นที่จะสิ้นสุดเมธอดก่อนกำหนด

คิกรีเทิร์น
	รายการไฟล์การลบออก จะเป็นค่าว่างหากไม่มีการลบออก

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getTotalMemory

public long getTotalMemory ()

แสดงขนาดหน่วยความจําจริงทั้งหมดเป็นไบต์ หรือ -1 ในกรณีที่เกิดข้อผิดพลาดภายใน

คิกรีเทิร์น
`long`

getTrackingSerial

public String getTrackingSerial ()

หาหมายเลขซีเรียลที่ใช้ติดตามอุปกรณ์เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดการอุปกรณ์

คิกรีเทิร์น
`String`

getUninstallablePackageNames

public  getUninstallablePackageNames ()

ดึงข้อมูลชื่อแพ็กเกจแอปพลิเคชันที่ถอนการติดตั้งได้ ปัจจุบันเรากำหนดให้แพ็กเกจเหล่านี้เป็นแพ็กเกจที่ไม่ใช่ระบบและแพ็กเกจระบบที่อัปเดตแล้ว

คิกรีเทิร์น
	`ERROR(/Set)` ชื่อแพ็กเกจ `String` ที่ถอนไม่ได้ซึ่งติดตั้งอยู่ในอุปกรณ์ในขณะนี้

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getUseFastbootErase

public boolean getUseFastbootErase ()

ดูว่าควรใช้ fastboot erase หรือ fastboot format เพื่อล้างพาร์ติชันในอุปกรณ์

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากจะใช้การลบด้วย Fastboot หรือ `false` หากจะใช้การฟอร์แมตด้วย Fastboot

getUserFlags

public int getUserFlags (int userId)

ค้นหาและแสดงการแจ้งเตือนของผู้ใช้ที่ระบุ ระบบจะกำหนด Flag ในคลาส "android.content.pm.UserInfo" ในโปรเจ็กต์โอเพนซอร์ส Android

พารามิเตอร์
`userId`	`int`

คิกรีเทิร์น
`int`	Flag ที่เชื่อมโยงกับ userId ที่ระบุ หากพบ -10000 ในกรณีอื่นๆ

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getUserInfos

public  getUserInfos ()

รับแผนที่ของ useId เป็น UserInfo ในอุปกรณ์ จะแสดง DeviceRuntimeException หากเอาต์พุตจากอุปกรณ์ไม่เป็นไปตามที่คาดไว้

คิกรีเทิร์น
	รายการออบเจ็กต์ UserInfo

โยน
`DeviceNotAvailableException`

getUserSerialNumber

public int getUserSerialNumber (int userId)

แสดงหมายเลขซีเรียลที่เชื่อมโยงกับ userId หากพบ หรือ -10000 ในกรณีอื่นๆ

พารามิเตอร์
`userId`	`int`

คิกรีเทิร์น
`int`

โยน
`DeviceNotAvailableException`

handleAllocationEvent

public IManagedTestDevice.DeviceEventResponse handleAllocationEvent (DeviceEvent event)

ประมวลผล DeviceEvent ที่ระบุ อาจเปลี่ยนสถานะอุปกรณ์เป็นสถานะใหม่ จะแจ้งให้ IDeviceMonitor ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงสถานะ

ประมวลผล DeviceEvent ซึ่งอาจเปลี่ยนสถานะการจัดสรรอุปกรณ์นี้ใหม่หรือไม่ก็ได้

พารามิเตอร์
`event`	`DeviceEvent`

คิกรีเทิร์น
`IManagedTestDevice.DeviceEventResponse`

hasFeature

public boolean hasFeature (String feature)

ตรวจสอบว่าฟีเจอร์พร้อมใช้งานในอุปกรณ์หรือไม่

พารามิเตอร์
`feature`	`String`: รูปแบบควรเป็น "feature:" หรือ "" โดยตรง

คิกรีเทิร์น
`boolean`	จริงหากพบองค์ประกอบ ไม่เช่นนั้นจะเป็นเท็จ

โยน
`DeviceNotAvailableException`

installPackage

public String installPackage (File packageFile, 
                boolean reinstall, 
                String... extraArgs)

ติดตั้งแพ็กเกจ Android ในอุปกรณ์

พารามิเตอร์
`packageFile`	`File`: ไฟล์ APK ที่จะติดตั้ง
`reinstall`	`boolean`: `true` หากควรติดตั้งอีกครั้ง
`extraArgs`	`String`: อาร์กิวเมนต์เพิ่มเติมที่ไม่บังคับที่จะส่ง ดูตัวเลือกที่มีได้ที่ "adb shell pm -h"

คิกรีเทิร์น
`String`	`String` พร้อมรหัสข้อผิดพลาด หรือ `null` หากสำเร็จ

โยน
`DeviceNotAvailableException`

installPackage

public String installPackage (File packageFile, 
                boolean reinstall, 
                boolean grantPermissions, 
                String... extraArgs)

ติดตั้งแพ็กเกจ Android ในอุปกรณ์

หมายเหตุ: เฉพาะ Use Case ที่ต้องควบคุมการให้สิทธิ์รันไทม์อย่างชัดแจ้ง ณ เวลาติดตั้งเท่านั้นที่ควรเรียกใช้ฟังก์ชันนี้

พารามิเตอร์
`packageFile`	`File`: ไฟล์ APK ที่จะติดตั้ง
`reinstall`	`boolean`: `true` หากควรติดตั้งอีกครั้ง
`grantPermissions`	`boolean`: กำหนดว่าควรให้สิทธิ์รันไทม์ทั้งหมด ณ เวลาที่ติดตั้งหรือไม่
`extraArgs`	`String`: อาร์กิวเมนต์เพิ่มเติมที่ไม่บังคับที่จะส่ง ดูตัวเลือกที่มีได้ที่ "adb shell pm -h"

คิกรีเทิร์น
`String`	`String` พร้อมรหัสข้อผิดพลาด หรือ `null` หากสำเร็จ

โยน
`DeviceNotAvailableException`

installPackageForUser

public String installPackageForUser (File packageFile, 
                boolean reinstall, 
                int userId, 
                String... extraArgs)

ติดตั้งแพ็กเกจ Android ในอุปกรณ์สำหรับผู้ใช้รายหนึ่งๆ

พารามิเตอร์
`packageFile`	`File`: ไฟล์ APK ที่จะติดตั้ง
`reinstall`	`boolean`: `true` หากควรติดตั้งอีกครั้ง
`userId`	`int`: รหัสผู้ใช้แบบจำนวนเต็มที่จะติดตั้ง
`extraArgs`	`String`: อาร์กิวเมนต์เพิ่มเติมที่ไม่บังคับที่จะส่ง ดูตัวเลือกที่มีได้ที่ "adb shell pm -h"

คิกรีเทิร์น
`String`	`String` พร้อมรหัสข้อผิดพลาด หรือ `null` หากสำเร็จ

โยน
`DeviceNotAvailableException`

installPackageForUser

public String installPackageForUser (File packageFile, 
                boolean reinstall, 
                boolean grantPermissions, 
                int userId, 
                String... extraArgs)

ติดตั้งแพ็กเกจ Android ในอุปกรณ์สำหรับผู้ใช้รายหนึ่งๆ

พารามิเตอร์
`packageFile`	`File`: ไฟล์ APK ที่จะติดตั้ง
`reinstall`	`boolean`: `true` หากควรติดตั้งอีกครั้ง
`grantPermissions`	`boolean`: กำหนดว่าควรให้สิทธิ์รันไทม์ทั้งหมด ณ เวลาที่ติดตั้งหรือไม่
`userId`	`int`: รหัสผู้ใช้แบบจำนวนเต็มที่จะติดตั้ง
`extraArgs`	`String`: อาร์กิวเมนต์เพิ่มเติมที่ไม่บังคับที่จะส่ง ดูตัวเลือกที่มีได้ที่ "adb shell pm -h"

คิกรีเทิร์น
`String`	`String` พร้อมรหัสข้อผิดพลาด หรือ `null` หากสำเร็จ

โยน
`DeviceNotAvailableException`

invalidatePropertyCache

public void invalidatePropertyCache ()

isAdbRoot

public boolean isAdbRoot ()

คิกรีเทิร์น
`boolean`

โยน
`DeviceNotAvailableException`

isAdbTcp

public boolean isAdbTcp ()

คิกรีเทิร์น
`boolean`

isAppEnumerationSupported

public boolean isAppEnumerationSupported ()

ตรวจสอบว่าแพลตฟอร์มในอุปกรณ์รองรับการแจกแจงแอปหรือไม่

คิกรีเทิร์น
`boolean`	จริงหากรองรับการแจกแจงแอป ไม่เช่นนั้นจะเป็นเท็จ

โยน
`DeviceNotAvailableException`

isBypassLowTargetSdkBlockSupported

public boolean isBypassLowTargetSdkBlockSupported ()

ตรวจสอบว่าแพลตฟอร์มในอุปกรณ์รองรับการข้ามการบล็อก SDK เป้าหมายต่ำในการติดตั้งแอปหรือไม่

คิกรีเทิร์น
`boolean`	จริงหากรองรับการข้ามบล็อก SDK เป้าหมายต่ำ มิเช่นนั้นจะเป็นเท็จ

โยน
`DeviceNotAvailableException`

isDebugfsMounted

public boolean isDebugfsMounted ()

ตรวจสอบว่าระบบได้ต่อเชื่อม debugfs หรือไม่

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากต่อเชื่อม debugfs

โยน
`DeviceNotAvailableException`

isDeviceEncrypted

public boolean isDeviceEncrypted ()

แสดงผลหากอุปกรณ์มีการเข้ารหัส

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากอุปกรณ์ได้รับการเข้ารหัส

โยน
`DeviceNotAvailableException`

isDirectory

public boolean isDirectory (String path)

แสดงผลเป็น "จริง" หากเส้นทางในอุปกรณ์เป็นไดเรกทอรี หากไม่ใช่จะแสดงผลเป็น "เท็จ"

พารามิเตอร์
`path`	`String`

คิกรีเทิร์น
`boolean`

โยน
`DeviceNotAvailableException`

isEnableAdbRoot

public boolean isEnableAdbRoot ()

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากควรเปิดใช้ adb root ในอุปกรณ์

isEncryptionSupported

public boolean isEncryptionSupported ()

แสดงผลหากอุปกรณ์รองรับการเข้ารหัส

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากอุปกรณ์รองรับการเข้ารหัส

โยน
`DeviceNotAvailableException`

isExecutable

public boolean isExecutable (String fullPath)

แสดงผลเป็น True หากเส้นทางไฟล์ในอุปกรณ์เป็นไฟล์ที่เรียกใช้ได้ หากไม่ใช่จะแสดงผลเป็น False

พารามิเตอร์
`fullPath`	`String`

คิกรีเทิร์น
`boolean`

โยน
`DeviceNotAvailableException`

isFastbootEnabled

public boolean isFastbootEnabled ()

แสดงผลหากอุปกรณ์มี Fastboot

คิกรีเทิร์น
`boolean`

isHeadless

public boolean isHeadless ()

แสดงผลเป็น "จริง" หากอุปกรณ์ไม่มีจอแสดงผล (ไม่มีหน้าจอ) หากไม่ใช่จะแสดงผลเป็น "เท็จ"

คิกรีเทิร์น
`boolean`

โยน
`DeviceNotAvailableException`

isHeadlessSystemUserMode

public boolean isHeadlessSystemUserMode ()

แสดงผลว่าอุปกรณ์ใช้โหมดผู้ใช้ระบบแบบไม่มีส่วนหัวหรือไม่

คิกรีเทิร์น
`boolean`

โยน
`DeviceNotAvailableException`

isMainUserPermanentAdmin

public boolean isMainUserPermanentAdmin ()

แสดงผลว่าผู้ใช้หลักเป็นผู้ดูแลระบบถาวรและไม่สามารถลบหรือดาวน์เกรดเป็นสถานะไม่ใช่ผู้ดูแลระบบได้หรือไม่

คิกรีเทิร์น
`boolean`

โยน
`DeviceNotAvailableException`

isMultiUserSupported

public boolean isMultiUserSupported ()

กำหนดว่าระบบรองรับผู้ใช้หลายคนหรือไม่

คิกรีเทิร์น
`boolean`	จริงหากรองรับผู้ใช้หลายคน ไม่เช่นนั้นจะเป็นเท็จ

โยน
`DeviceNotAvailableException`

isPackageInstalled

public boolean isPackageInstalled (String packageName, 
                String userId)

ค้นหาชื่อแพ็กเกจและรหัสผู้ใช้ที่ระบุในอุปกรณ์เพื่อดูว่าผู้ใช้รายนั้นติดตั้งแอปดังกล่าวหรือไม่

พารามิเตอร์
`packageName`	`String`: แพ็กเกจที่เรากำลังตรวจสอบว่ามีการติดตั้งหรือไม่
`userId`	`String`: รหัสผู้ใช้ที่เรากำลังตรวจสอบว่ามีการติดตั้งแพ็กเกจให้หรือไม่ หากเป็นค่า Null ระบบจะใช้ผู้ใช้หลักเป็น 0

คิกรีเทิร์น
`boolean`	จริง หากมีการรายงานว่าแพ็กเกจได้รับการติดตั้งแล้ว จะเป็นเท็จหากไม่เป็นเช่นนั้น

โยน
`DeviceNotAvailableException`

isPackageInstalled

public boolean isPackageInstalled (String packageName)

ค้นหาชื่อแพ็กเกจที่ระบุในอุปกรณ์เพื่อดูว่าติดตั้งอยู่หรือไม่

พารามิเตอร์
`packageName`	`String`

คิกรีเทิร์น
`boolean`	จริง หากมีการรายงานว่าแพ็กเกจได้รับการติดตั้งแล้ว จะเป็นเท็จหากไม่เป็นเช่นนั้น

โยน
`DeviceNotAvailableException`

isRuntimePermissionSupported

public boolean isRuntimePermissionSupported ()

ตรวจสอบว่าแพลตฟอร์มในอุปกรณ์รองรับการให้สิทธิ์รันไทม์หรือไม่

คิกรีเทิร์น
`boolean`	จริงหากรองรับสิทธิ์รันไทม์ หรือเป็นเท็จหากไม่รองรับ

โยน
`DeviceNotAvailableException`

isStateBootloaderOrFastbootd

public boolean isStateBootloaderOrFastbootd ()

แสดงค่า "จริง" หากอุปกรณ์อยู่ใน TestDeviceState.FASTBOOT หรือ TestDeviceState.FASTBOOTD

คิกรีเทิร์น
`boolean`

isUserRunning

public boolean isUserRunning (int userId)

ตรวจสอบว่าผู้ใช้รายใดรายหนึ่งกำลังใช้งานอยู่หรือไม่

พารามิเตอร์
`userId`	`int`

คิกรีเทิร์น
`boolean`	จริงหากผู้ใช้กำลังวิ่งอยู่ เป็นเท็จในทุกกรณี

โยน
`DeviceNotAvailableException`

isUserSecondary

public boolean isUserSecondary (int userId)

แสดงผลว่าผู้ใช้ที่ระบุเป็นผู้ใช้รองหรือไม่ตาม Flag ของผู้ใช้

พารามิเตอร์
`userId`	`int`

คิกรีเทิร์น
`boolean`	จริงหากผู้ใช้เป็นผู้ใช้รอง หรือเป็นเท็จหากไม่ใช่

โยน
`DeviceNotAvailableException`

isUserVisible

public boolean isUserVisible (int userId)

ตรวจสอบว่าผู้ใช้ที่ระบุมองเห็นหรือไม่

ผู้ใช้ที่ "มองเห็นได้" คือผู้ใช้ที่โต้ตอบกับผู้ใช้ "ที่เป็นมนุษย์" จึงสามารถเปิดกิจกรรมการเปิดตัวได้ (โดยปกติจะอยู่ในการแสดงผลเริ่มต้น)

พารามิเตอร์
`userId`	`int`

คิกรีเทิร์น
`boolean`

โยน
`DeviceNotAvailableException`

isUserVisibleOnDisplay

public boolean isUserVisibleOnDisplay (int userId, 
                int displayId)

ตรวจสอบว่าผู้ใช้ที่ระบุปรากฏในการแสดงผลที่ระบุหรือไม่

ผู้ใช้ที่ "มองเห็นได้" คือผู้ใช้ที่โต้ตอบกับผู้ใช้ที่เป็น "มนุษย์" จึงสามารถเปิดใช้งานกิจกรรมในการแสดงผลนั้นได้

พารามิเตอร์
`userId`	`int`
`displayId`	`int`

คิกรีเทิร์น
`boolean`

โยน
`DeviceNotAvailableException`

isVisibleBackgroundUsersOnDefaultDisplaySupported

public boolean isVisibleBackgroundUsersOnDefaultDisplaySupported ()

แสดงผลว่าอุปกรณ์อนุญาตให้ผู้ใช้เริ่มแสดงในเบื้องหลังใน ERROR(/java.android.view.Display#DEFAULT_DISPLAY) หรือไม่

หากมี คุณอาจเรียกใช้ startVisibleBackgroundUser(int, int, boolean) โดยส่งการแสดงผลที่ listDisplayIdsForStartingVisibleBackgroundUsers() แสดง (ซึ่งควรมี ERROR(/java.android.view.Display#DEFAULT_DISPLAY))

คิกรีเทิร์น
`boolean`

โยน
`DeviceNotAvailableException`

isVisibleBackgroundUsersSupported

public boolean isVisibleBackgroundUsersSupported ()

แสดงผลว่าอุปกรณ์อนุญาตให้ผู้ใช้เริ่มแสดงในเบื้องหลังหรือไม่

หากมี คุณอาจเรียกใช้ startVisibleBackgroundUser(int, int, boolean) โดยส่งการแสดงผลที่ listDisplayIdsForStartingVisibleBackgroundUsers() แสดง

คิกรีเทิร์น
`boolean`

โยน
`DeviceNotAvailableException`

isWifiEnabled

public boolean isWifiEnabled ()

ทดสอบว่าเปิดใช้ Wi-Fi หรือไม่

ตรวจสอบว่าเปิดใช้ Wi-Fi ในอุปกรณ์หรือไม่ มีประโยชน์สำหรับการยืนยันสถานะ Wi-Fi ก่อนการทดสอบที่ไม่ควรทํางานด้วย Wi-Fi เช่น การทดสอบอินเทอร์เน็ตมือถือ

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากเปิดใช้ Wi-Fi `false` หากปิดใช้

โยน
`DeviceNotAvailableException`

listDisplayIds

public  listDisplayIds ()

รวบรวมรายการรหัสจอแสดงผลที่ใช้ได้บนอุปกรณ์ตามที่ "dumpsys SurfaceFlinger" รายงาน

คิกรีเทิร์น
	รายการจอแสดงผล ค่าเริ่มต้นจะแสดงผลเป็น 0 เสมอ

โยน
`DeviceNotAvailableException`

listDisplayIdsForStartingVisibleBackgroundUsers

public  listDisplayIdsForStartingVisibleBackgroundUsers ()

รับรายการจอแสดงผลที่ใช้เพื่อstart a user visible in the backgroundได้

คิกรีเทิร์น

โยน
`DeviceNotAvailableException`

listUsers

public  listUsers ()

รับรายชื่อผู้ใช้ในอุปกรณ์ จะแสดง DeviceRuntimeException หากเอาต์พุตจากอุปกรณ์ไม่เป็นไปตามที่คาดไว้

คิกรีเทิร์น
	รายการรหัสผู้ใช้

โยน
`DeviceNotAvailableException`

logAnrs

public boolean logAnrs (ITestLogger logger)

รวบรวมและบันทึก ANR จากอุปกรณ์

พารามิเตอร์
`logger`	`ITestLogger`: `ITestLogger` เพื่อบันทึก ANR

คิกรีเทิร์น
`boolean`	จริง หากการบันทึกสําเร็จ หรือเป็นเท็จ

โยน
`DeviceNotAvailableException`

logBugreport

public boolean logBugreport (String dataName, 
                ITestLogger listener)

วิธีการช่วยเพื่อนำรายงานข้อบกพร่องไปบันทึกให้กับผู้รายงาน

พารามิเตอร์
`dataName`	`String`: ชื่อที่จะรายงานรายงานข้อบกพร่อง
`listener`	`ITestLogger`: `ITestLogger` เพื่อบันทึกรายงานข้อบกพร่อง

คิกรีเทิร์น
`boolean`	จริง หากการบันทึกสําเร็จ หรือเป็นเท็จ

logOnDevice

public void logOnDevice (String tag, 
                Log.LogLevel level, 
                String format, 
                Object... args)

บันทึกข้อความใน Logcat ของอุปกรณ์ การเรียกนี้ปลอดภัยและจะไม่แสดงข้อผิดพลาดแม้ว่าการบันทึกจะล้มเหลวก็ตาม

พารามิเตอร์
`tag`	`String`: แท็กที่เราบันทึกข้อความในบันทึกข้อบกพร่อง
`level`	`Log.LogLevel`: ระดับการแก้ไขข้อบกพร่องของข้อความใน Logcat
`format`	`String`: รูปแบบข้อความ
`args`	`Object`: อาร์กิวเมนต์ที่จะแทนที่ผ่าน String.format()

mountDebugfs

public void mountDebugfs ()

ติดตั้ง debugfs

โยน
`DeviceNotAvailableException`

nonBlockingReboot

public void nonBlockingReboot ()

ส่งคําสั่งให้รีบูตอุปกรณ์และแสดงผลเมื่อคําสั่งเสร็จสมบูรณ์และเมื่อ adb ไม่เห็นอุปกรณ์อีกต่อไป

โยน
`DeviceNotAvailableException`

postAdbRootAction

public void postAdbRootAction ()

ลบล้างหากอุปกรณ์ต้องดำเนินการบางอย่างหลังจากการรูท adb และก่อนที่อุปกรณ์จะกลับมาออนไลน์อีกครั้ง การติดตั้งใช้งานเริ่มต้นจะไม่รวมการดำเนินการเพิ่มเติมใดๆ ไม่มีการรับประกันว่า adb root จะเปิดใช้ในขั้นตอนนี้

โยน
	com.android.tradefed.device.DeviceNotAvailableException
`DeviceNotAvailableException`

postAdbUnrootAction

public void postAdbUnrootAction ()

ลบล้างหากอุปกรณ์ต้องดำเนินการบางอย่างหลังจาก adb ยกเลิกการรูทและก่อนที่อุปกรณ์จะกลับมาออนไลน์อีกครั้ง การติดตั้งใช้งานเริ่มต้นจะไม่รวมการดำเนินการเพิ่มเติมใดๆ เราไม่รับประกันว่าจะปิดใช้ adb root ในขั้นตอนนี้

โยน
	com.android.tradefed.device.DeviceNotAvailableException
`DeviceNotAvailableException`

postBootSetup

public void postBootSetup ()

ทำตามวิธีการเพื่อกำหนดค่าอุปกรณ์สำหรับการทดสอบหลังจากการบูตทุกครั้ง

ควรเรียกใช้หลังจากอุปกรณ์บูต/พร้อมใช้งานโดยสมบูรณ์

ในกรณีปกติ คุณไม่จำเป็นต้องเรียกใช้เมธอดนี้อย่างชัดเจน เนื่องจากการติดตั้งใช้งานควรทำตามขั้นตอนเหล่านี้โดยอัตโนมัติเมื่อทำการรีบูต

กรณีที่อาจต้องเรียกใช้คือเมื่ออุปกรณ์รีบูตเนื่องจากเหตุการณ์อื่นๆ (เช่น เมื่อคำสั่ง fastboot update เสร็จสมบูรณ์)

โยน
`DeviceNotAvailableException`

postInvocationTearDown

public void postInvocationTearDown (Throwable exception)

ขั้นตอนเพิ่มเติมสำหรับการล้างข้อมูลที่จำเป็นสำหรับอุปกรณ์โดยเฉพาะที่จะดำเนินการหลังจากการเรียกใช้เสร็จสิ้น

พารามิเตอร์
`exception`	`Throwable`: ข้อยกเว้นสุดท้ายที่ยกขึ้นเมื่อการเรียกใช้ไม่สำเร็จ (หากมี)

preInvocationSetup

public void preInvocationSetup (IBuildInfo info, 
                MultiMap<String, String> attributes)

ขั้นตอนเพิ่มเติมสำหรับการตั้งค่าที่จำเป็นเฉพาะอุปกรณ์ที่จะดำเนินการในอุปกรณ์ก่อนขั้นตอนเรียกใช้

พารามิเตอร์
`info`	`IBuildInfo`: `IBuildInfo` ของอุปกรณ์
`attributes`	`MultiMap`: แอตทริบิวต์ที่เก็บไว้ในบริบทการเรียกใช้

โยน
`DeviceNotAvailableException`
`TargetSetupError`

pullDir

public boolean pullDir (String deviceFilePath, 
                File localDir, 
                int userId)

ดึงเนื้อหาไดเรกทอรีจากอุปกรณ์แบบซ้ำ

พารามิเตอร์
`deviceFilePath`	`String`: เส้นทางไฟล์แบบสัมบูรณ์ของแหล่งที่มาระยะไกล
`localDir`	`File`: ไดเรกทอรีในเครื่องที่จะดึงไฟล์เข้ามา
`userId`	`int`: รหัสผู้ใช้ที่จะดึงข้อมูล

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากดึงข้อมูลไฟล์สําเร็จ `false` ในกรณีอื่น

โยน
`DeviceNotAvailableException`

pullDir

public boolean pullDir (String deviceFilePath, 
                File localDir)

ดึงเนื้อหาไดเรกทอรีจากอุปกรณ์แบบซ้ำ

พารามิเตอร์
`deviceFilePath`	`String`: เส้นทางไฟล์แบบสัมบูรณ์ของแหล่งที่มาระยะไกล
`localDir`	`File`: ไดเรกทอรีในเครื่องที่จะดึงไฟล์เข้ามา

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากดึงข้อมูลไฟล์สําเร็จ `false` ในกรณีอื่น

โยน
`DeviceNotAvailableException`

pullFile

public boolean pullFile (String remoteFilePath, 
                File localFile)

ดึงข้อมูลไฟล์ออกจากอุปกรณ์

พารามิเตอร์
`remoteFilePath`	`String`: เส้นทางสัมบูรณ์ไปยังไฟล์ในอุปกรณ์
`localFile`	`File`: ไฟล์ในเครื่องสำหรับจัดเก็บเนื้อหา หากไม่ว่างเปล่า ระบบจะแทนที่เนื้อหา

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากดึงข้อมูลไฟล์สําเร็จ `false` ในกรณีอื่น

โยน
`DeviceNotAvailableException`

pullFile

public File pullFile (String remoteFilePath, 
                int userId)

ดึงไฟล์ออกจากอุปกรณ์ จัดเก็บไว้ใน ERROR(/File) ชั่วคราวในเครื่อง และแสดง File นั้น

พารามิเตอร์
`remoteFilePath`	`String`: เส้นทางสัมบูรณ์ไปยังไฟล์ในอุปกรณ์
`userId`	`int`: รหัสผู้ใช้ที่จะดึงข้อมูล

คิกรีเทิร์น
`File`	`ERROR(/File)` ที่มีเนื้อหาของไฟล์อุปกรณ์ หรือ `null` หากคัดลอกไม่สำเร็จไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม (รวมถึงปัญหาเกี่ยวกับระบบไฟล์โฮสต์)

โยน
`DeviceNotAvailableException`

pullFile

public File pullFile (String remoteFilePath)

พารามิเตอร์
`remoteFilePath`	`String`: เส้นทางสัมบูรณ์ไปยังไฟล์ในอุปกรณ์

คิกรีเทิร์น
`File`	`ERROR(/File)` ที่มีเนื้อหาของไฟล์อุปกรณ์ หรือ `null` หากคัดลอกไม่สำเร็จไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม (รวมถึงปัญหาเกี่ยวกับระบบไฟล์โฮสต์)

โยน
`DeviceNotAvailableException`

pullFile

public boolean pullFile (String remoteFilePath, 
                File localFile, 
                int userId)

ดึงข้อมูลไฟล์ออกจากอุปกรณ์

พารามิเตอร์
`remoteFilePath`	`String`: เส้นทางสัมบูรณ์ไปยังไฟล์ในอุปกรณ์
`localFile`	`File`: ไฟล์ในเครื่องสำหรับจัดเก็บเนื้อหา หากไม่ว่างเปล่า ระบบจะแทนที่เนื้อหา
`userId`	`int`: รหัสผู้ใช้ที่จะดึงข้อมูล

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากดึงข้อมูลไฟล์สําเร็จ `false` ในกรณีอื่น

โยน
`DeviceNotAvailableException`

pullFileContents

public String pullFileContents (String remoteFilePath)

ดึงข้อมูลไฟล์ออกจากอุปกรณ์และแสดงผลเนื้อหา

พารามิเตอร์
`remoteFilePath`	`String`: เส้นทางสัมบูรณ์ไปยังไฟล์ในอุปกรณ์

คิกรีเทิร์น
`String`	`String` ที่มีเนื้อหาของไฟล์อุปกรณ์ หรือ `null` หากคัดลอกไม่สำเร็จไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม (รวมถึงปัญหาเกี่ยวกับระบบไฟล์โฮสต์)

โยน
`DeviceNotAvailableException`

pullFileFromExternal

public File pullFileFromExternal (String remoteFilePath)

วิธีการที่สะดวกในการดึงไฟล์จากที่จัดเก็บข้อมูลภายนอกของอุปกรณ์ จัดเก็บไฟล์ในERROR(/File)ชั่วคราวในเครื่อง และแสดงผลข้อมูลอ้างอิงไปยังFileนั้น

พารามิเตอร์
`remoteFilePath`	`String`: เส้นทางไปยังไฟล์ในอุปกรณ์ซึ่งสัมพันธ์กับจุดต่อเชื่อมของอุปกรณ์เก็บข้อมูลภายนอก

คิกรีเทิร์น
`File`	`ERROR(/File)` ที่มีเนื้อหาของไฟล์อุปกรณ์ หรือ `null` หากคัดลอกไม่สำเร็จไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม (รวมถึงปัญหาเกี่ยวกับระบบไฟล์โฮสต์)

โยน
`DeviceNotAvailableException`

pushDir

public boolean pushDir (File localFileDir, 
                String deviceFilePath, 
                 excludedDirectories)

พุชเนื้อหาไดเรกทอรีไปยังอุปกรณ์แบบซ้ำซ้อนขณะยกเว้นไดเรกทอรีบางรายการที่กรองออก

พารามิเตอร์
`localFileDir`	`File`: ไดเรกทอรีในเครื่องที่จะพุช
`deviceFilePath`	`String`: เส้นทางไฟล์แบบสัมบูรณ์ของปลายทางระยะไกล
`excludedDirectories`	: ชุดชื่อไดเรกทอรีที่ยกเว้นซึ่งไม่ควรพุช

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากพุชไฟล์สำเร็จ `false` ในกรณีอื่น

โยน
`DeviceNotAvailableException`

pushDir

public boolean pushDir (File localFileDir, 
                String deviceFilePath)

พุชเนื้อหาไดเรกทอรีไปยังอุปกรณ์แบบซ้ำ

พารามิเตอร์
`localFileDir`	`File`: ไดเรกทอรีในเครื่องที่จะพุช
`deviceFilePath`	`String`: เส้นทางไฟล์แบบสัมบูรณ์ของปลายทางระยะไกล

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากพุชไฟล์สำเร็จ `false` ในกรณีอื่น

โยน
`DeviceNotAvailableException`

pushDir

public boolean pushDir (File localFileDir, 
                String deviceFilePath, 
                int userId)

พุชเนื้อหาไดเรกทอรีไปยังอุปกรณ์แบบซ้ำ

พารามิเตอร์
`localFileDir`	`File`: ไดเรกทอรีในเครื่องที่จะพุช
`deviceFilePath`	`String`: เส้นทางไฟล์แบบสัมบูรณ์ของปลายทางระยะไกล
`userId`	`int`: รหัสผู้ใช้ที่จะพุช

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากพุชไฟล์สำเร็จ `false` ในกรณีอื่น

โยน
`DeviceNotAvailableException`

pushFile

public boolean pushFile (File localFile, 
                String remoteFilePath, 
                boolean evaluateContentProviderNeeded)

ตัวแปรของ pushFile(File, String) ซึ่งอาจพิจารณาประเมินความจำเป็นสำหรับผู้ให้บริการเนื้อหา

พารามิเตอร์
`localFile`	`File`: ไฟล์ในเครื่องที่จะพุช
`remoteFilePath`	`String`: เส้นทางไฟล์สัมบูรณ์ของปลายทางระยะไกล
`evaluateContentProviderNeeded`	`boolean`: ตรวจสอบว่าจำเป็นต้องมีผู้ให้บริการเนื้อหาหรือไม่

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากพุชไฟล์สำเร็จ `false` ในกรณีอื่น

โยน
`DeviceNotAvailableException`

pushFile

public boolean pushFile (File localFile, 
                String remoteFilePath)

พุชไฟล์ไปยังอุปกรณ์ ใช้ผู้ให้บริการเนื้อหาโดยค่าเริ่มต้น

พารามิเตอร์
`localFile`	`File`: ไฟล์ในเครื่องที่จะพุช
`remoteFilePath`	`String`: เส้นทางไฟล์สัมบูรณ์ของปลายทางระยะไกล

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากพุชไฟล์สำเร็จ `false` ในกรณีอื่น

โยน
`DeviceNotAvailableException`

pushFile

public boolean pushFile (File localFile, 
                String remoteFilePath, 
                int userId)

พุชไฟล์ไปยังอุปกรณ์ ใช้ผู้ให้บริการเนื้อหาโดยค่าเริ่มต้น

พารามิเตอร์
`localFile`	`File`: ไฟล์ในเครื่องที่จะพุช
`remoteFilePath`	`String`: เส้นทางไฟล์สัมบูรณ์ของปลายทางระยะไกล
`userId`	`int`: รหัสผู้ใช้ที่จะพุช

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากพุชไฟล์สำเร็จ `false` ในกรณีอื่น

โยน
`DeviceNotAvailableException`

pushString

public boolean pushString (String contents, 
                String remoteFilePath)

พุชไฟล์ที่สร้างจากสตริงไปยังอุปกรณ์

พารามิเตอร์
`contents`	`String`: เนื้อหาของไฟล์ที่จะพุช
`remoteFilePath`	`String`: เส้นทางไฟล์สัมบูรณ์ของปลายทางระยะไกล

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากมีการพุชสตริงสําเร็จ `false` ในกรณีอื่น

โยน
`DeviceNotAvailableException`

รีบูต

public void reboot (String reason)

รีบูตอุปกรณ์เป็นโหมด ADB ด้วย reason ที่ระบุไว้เพื่อให้คงอยู่หลังจากรีบูต

บล็อกจนกว่าอุปกรณ์จะพร้อมใช้งาน

คุณดูสาเหตุการรีบูตครั้งล่าสุดได้โดยค้นหาพร็อพเพอร์ตี้ sys.boot.reason

พารามิเตอร์
`reason`	`String`: เหตุผลของการรีบูตครั้งนี้ หรือ `null` หากไม่มีการระบุเหตุผล

โยน
`DeviceNotAvailableException`

รีบูต

public void reboot ()

รีบูตอุปกรณ์เป็นโหมด adb

บล็อกจนกว่าอุปกรณ์จะพร้อมใช้งาน

โยน
`DeviceNotAvailableException`

rebootIntoBootloader

public void rebootIntoBootloader ()

รีบูตอุปกรณ์เป็นโหมด Bootloader

บล็อกจนกว่าอุปกรณ์จะอยู่ในโหมด Bootloader

โยน
`DeviceNotAvailableException`

rebootIntoFastbootd

public void rebootIntoFastbootd ()

รีบูตอุปกรณ์เข้าสู่โหมด fastbootd

บล็อกจนกว่าอุปกรณ์จะอยู่ในโหมด fastbootd

โยน
`DeviceNotAvailableException`

rebootIntoRecovery

public void rebootIntoRecovery ()

รีบูตอุปกรณ์เข้าสู่โหมดการกู้คืน adb

บล็อกจนกว่าอุปกรณ์จะเข้าสู่โหมดการกู้คืน

โยน
`DeviceNotAvailableException`

rebootIntoSideload

public void rebootIntoSideload ()

รีบูตอุปกรณ์เป็นโหมดการโหลดจากแหล่งที่ไม่รู้จักของ adb (โปรดทราบว่านี่เป็นโหมดพิเศษในการกู้คืน)

บล็อกจนกว่าอุปกรณ์จะเข้าสู่โหมดการโหลดจากภายนอก

โยน
`DeviceNotAvailableException`

rebootIntoSideload

public void rebootIntoSideload (boolean autoReboot)

บล็อกจนกว่าอุปกรณ์จะเข้าสู่โหมดการโหลดจากภายนอก

พารามิเตอร์
`autoReboot`	`boolean`: รีบูตอุปกรณ์โดยอัตโนมัติหลังจากการโหลดจากแหล่งที่ไม่รู้จักหรือไม่

โยน
`DeviceNotAvailableException`

rebootUntilOnline

public void rebootUntilOnline ()

คำสั่งอื่นแทน reboot() ที่บล็อกเฉพาะจนกว่าอุปกรณ์จะออนไลน์ เช่น มองเห็นโดย adb

โยน
`DeviceNotAvailableException`

rebootUntilOnline

public void rebootUntilOnline (String reason)

พารามิเตอร์
`reason`	`String`: เหตุผลของการรีบูตครั้งนี้ หรือ `null` หากไม่มีการระบุเหตุผล

โยน
`DeviceNotAvailableException`

rebootUserspace

public void rebootUserspace ()

รีบูตเฉพาะพื้นที่ผู้ใช้ของอุปกรณ์

บล็อกจนกว่าอุปกรณ์จะพร้อมใช้งาน

คำเตือน การรีบูตพื้นที่ผู้ใช้กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา คุณจึงใช้โดยยอมรับความเสี่ยงเอง

โยน
`DeviceNotAvailableException`

rebootUserspaceUntilOnline

public void rebootUserspaceUntilOnline ()

คำสั่งอื่นแทน rebootUserspace() ()} ที่บล็อกจนกว่าอุปกรณ์จะออนไลน์เท่านั้น เช่น มองเห็นโดย adb

โยน
`DeviceNotAvailableException`

recoverDevice

public boolean recoverDevice ()

พยายามกู้คืนการสื่อสารของอุปกรณ์

คิกรีเทิร์น
`boolean`	แสดงผลเป็น "จริง" หากมีการพยายามกู้คืนและกู้คืนสําเร็จ และแสดงผลเป็น "เท็จ" หากข้ามการกู้คืน

โยน
`DeviceNotAvailableException`	หากอุปกรณ์ไม่พร้อมใช้งานแล้ว

registerDeviceActionReceiver

public void registerDeviceActionReceiver (IDeviceActionReceiver deviceActionReceiver)

ลงทะเบียน IDeviceActionReceiver สำหรับอุปกรณ์นี้

IDeviceActionReceiver ที่ลงทะเบียนไว้ทั้งหมดจะได้รับการแจ้งเตือนก่อนการดำเนินการของอุปกรณ์จะเริ่มขึ้นและหลังจากการดำเนินการของอุปกรณ์สิ้นสุดลง

พารามิเตอร์
`deviceActionReceiver`	`IDeviceActionReceiver`: `IDeviceActionReceiver` ที่จะจดทะเบียน

remountSystemReadOnly

public void remountSystemReadOnly ()

ทำให้พาร์ติชันระบบในอุปกรณ์เป็นแบบอ่านอย่างเดียว อาจรีบูตอุปกรณ์

โยน
`DeviceNotAvailableException`

remountSystemWritable

public void remountSystemWritable ()

ทำให้สามารถเขียนพาร์ติชันระบบในอุปกรณ์ได้ อาจรีบูตอุปกรณ์

โยน
`DeviceNotAvailableException`

remountVendorReadOnly

public void remountVendorReadOnly ()

ทำให้พาร์ติชันของผู้ให้บริการในอุปกรณ์เป็นแบบอ่านอย่างเดียว อาจรีบูตอุปกรณ์

โยน
`DeviceNotAvailableException`

remountVendorWritable

public void remountVendorWritable ()

ทำให้สามารถเขียนพาร์ติชันของผู้ให้บริการในอุปกรณ์ได้ อาจรีบูตอุปกรณ์

โยน
`DeviceNotAvailableException`

removeAdmin

public boolean removeAdmin (String componentName, 
                int userId)

นำผู้ดูแลระบบอุปกรณ์ที่ระบุในผู้ใช้ที่ระบุออก และแสดงผลลัพธ์เป็น true หากดำเนินการสำเร็จ หรือ false หากดำเนินการไม่สำเร็จ

พารามิเตอร์
`componentName`	`String`: ของผู้ดูแลระบบอุปกรณ์ที่จะนำออก
`userId`	`int`: ของผู้ใช้ที่ผู้ดูแลระบบอุปกรณ์อาศัยอยู่

คิกรีเทิร์น
`boolean`	จริง หากดำเนินการสำเร็จ หรือเป็นเท็จ

โยน
`DeviceNotAvailableException`

removeOwners

public void removeOwners ()

นำเจ้าของโปรไฟล์อุปกรณ์ที่มีอยู่ทั้งหมดออก

โยน
`DeviceNotAvailableException`

removeUser

public boolean removeUser (int userId)

นำผู้ใช้ออกจากอุปกรณ์

พารามิเตอร์
`userId`	`int`: ของผู้ใช้ที่ต้องการนำออก

คิกรีเทิร์น
`boolean`	จริงหากเรานําผู้ใช้ออกสําเร็จ หรือเป็นเท็จหากไม่

โยน
`DeviceNotAvailableException`

resetContentProviderSetup

public void resetContentProviderSetup ()

รีเซ็ตการตั้งค่าผู้ให้บริการเนื้อหาเพื่อเรียกให้การตั้งค่าทำงานอีกครั้ง

runInstrumentationTests

public boolean runInstrumentationTests (IRemoteAndroidTestRunner runner, 
                ITestLifeCycleReceiver... listeners)

เมธอดที่สะดวกสำหรับการดำเนินการ ERROR(/#runInstrumentationTests(com.android.ddmlib.testrunner.IRemoteAndroidTestRunner,Collection)) ที่มี Listener อย่างน้อย 1 รายการที่ส่งผ่านเป็นพารามิเตอร์

พารามิเตอร์
`runner`	`IRemoteAndroidTestRunner`: `IRemoteAndroidTestRunner` ที่ทำการทดสอบ
`listeners`	`ITestLifeCycleReceiver`: รายการที่รับฟังผลการทดสอบ

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากคําสั่งทดสอบเสร็จสมบูรณ์ `false` หากดำเนินการไม่สำเร็จ แต่กู้คืนสำเร็จ

โยน
`DeviceNotAvailableException`

runInstrumentationTests

public boolean runInstrumentationTests (IRemoteAndroidTestRunner runner, 
                 listeners)

เรียกใช้การทดสอบการใช้เครื่องมือและให้การกู้คืนอุปกรณ์

หากการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ขาดหายไปก่อนที่การทดสอบจะเสร็จสมบูรณ์และการกู้คืนสําเร็จ ฟังก์ชันการฟังทั้งหมดจะได้รับการแจ้งเตือนว่า testRunFailed และระบบจะแสดงผล "เท็จ" ระบบจะไม่เรียกใช้คําสั่งทดสอบซ้ำ ผู้โทรจะต้องลองอีกครั้งหากจำเป็น

หากการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ขาดหายไปก่อนที่การทดสอบจะเสร็จสมบูรณ์และการกู้คืนไม่สำเร็จ ผู้ฟังทั้งหมดจะได้รับแจ้งว่า testRunFailed และระบบจะแสดง DeviceNotAvailableException

พารามิเตอร์
`runner`	`IRemoteAndroidTestRunner`: `IRemoteAndroidTestRunner` ที่ทำการทดสอบ
`listeners`	: รายการที่รับฟังผลการทดสอบ

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากคําสั่งทดสอบเสร็จสมบูรณ์ `false` หากดำเนินการไม่สำเร็จเนื่องจากข้อยกเว้นการสื่อสารของอุปกรณ์ แต่การกู้คืนสำเร็จ

โยน
`DeviceNotAvailableException`

runInstrumentationTestsAsUser

public boolean runInstrumentationTestsAsUser (IRemoteAndroidTestRunner runner, 
                int userId, 
                 listeners)

เหมือนกับ ERROR(ITestDevice.runInstrumentationTests(IRemoteAndroidTestRunner, Collection)/com.android.tradefed.device.ITestDevice#runInstrumentationTests(com.android.ddmlib.testrunner.IRemoteAndroidTestRunner,Collection) ITestDevice.runInstrumentationTests(IRemoteAndroidTestRunner, Collection)) แต่จะเป็นการเรียกใช้การทดสอบสําหรับผู้ใช้ที่ระบุ

พารามิเตอร์
`runner`	`IRemoteAndroidTestRunner`
`userId`	`int`
`listeners`

คิกรีเทิร์น
`boolean`

โยน
`DeviceNotAvailableException`

runInstrumentationTestsAsUser

public boolean runInstrumentationTestsAsUser (IRemoteAndroidTestRunner runner, 
                int userId, 
                ITestLifeCycleReceiver... listeners)

เหมือนกับ ITestDevice.runInstrumentationTests(IRemoteAndroidTestRunner, ITestLifeCycleReceiver...) แต่ทำการทดสอบสําหรับผู้ใช้ที่ระบุ

พารามิเตอร์
`runner`	`IRemoteAndroidTestRunner`
`userId`	`int`
`listeners`	`ITestLifeCycleReceiver`

คิกรีเทิร์น
`boolean`

โยน
`DeviceNotAvailableException`

setConfiguration

public void setConfiguration (IConfiguration configuration)

แทรก IConfiguration ที่ใช้อยู่

พารามิเตอร์
`configuration`	`IConfiguration`

setConnectionAvdInfo

public final void setConnectionAvdInfo (GceAvdInfo avdInfo)

พารามิเตอร์
`avdInfo`	`GceAvdInfo`

setDate

public void setDate (Date date)

ตั้งค่าวันที่ในอุปกรณ์

หมายเหตุ: การตั้งค่าวันที่ในอุปกรณ์ต้องเข้าถึงระดับรูท

พารามิเตอร์
`date`	`Date`: ระบุวันที่ที่ต้องการ จะใช้วันที่ของโฮสต์หาก `null`

โยน
`DeviceNotAvailableException`

setDeviceOwner

public boolean setDeviceOwner (String componentName, 
                int userId)

ตั้งค่าคอมโพเนนต์ผู้ดูแลระบบอุปกรณ์เป็นเจ้าของอุปกรณ์ในผู้ใช้ที่ระบุ

พารามิเตอร์
`componentName`	`String`: ของผู้ดูแลระบบอุปกรณ์เพื่อเป็นเจ้าของอุปกรณ์
`userId`	`int`: ของผู้ใช้ที่เจ้าของอุปกรณ์อาศัยอยู่

คิกรีเทิร์น
`boolean`	จริง หากดำเนินการสำเร็จ หรือเป็นเท็จ

โยน
`DeviceNotAvailableException`

setDeviceState

public void setDeviceState (TestDeviceState deviceState)

อัปเดตสถานะของอุปกรณ์

พารามิเตอร์
`deviceState`	`TestDeviceState`: `TestDeviceState`

setEmulatorOutputStream

public void setEmulatorOutputStream (SizeLimitedOutputStream output)

สําหรับโปรแกรมจําลอง ให้ตั้งค่า SizeLimitedOutputStream เพื่อบันทึกเอาต์พุต

พารามิเตอร์
`output`	`SizeLimitedOutputStream`: เพื่อบันทึกเอาต์พุต

setEmulatorProcess

public void setEmulatorProcess (Process p)

ตั้งค่า Process เมื่ออุปกรณ์นี้เป็นโปรแกรมจำลอง

พารามิเตอร์
`p`	`Process`

setFastbootEnabled

public void setFastbootEnabled (boolean fastbootEnabled)

ตั้งค่าตัวเลือกการบูตด่วนสำหรับอุปกรณ์ ควรตั้งค่าเมื่อจัดสรรอุปกรณ์เป็นครั้งแรก

พารามิเตอร์
`fastbootEnabled`	`boolean`: อุปกรณ์ใช้ Fastboot ได้หรือไม่

setFastbootPath

public void setFastbootPath (String fastbootPath)

ตั้งค่าเส้นทางไปยังไบนารี fastboot ที่ควรใช้ ยังคงต้องให้ isFastbootEnabled() เป็น "จริง" เพื่อเปิดใช้ฟังก์ชันการบูตด่วน

พารามิเตอร์
`fastbootPath`	`String`

setIDevice

public void setIDevice (IDevice newDevice)

อัปเดต IDevice ที่เชื่อมโยงกับ ITestDevice นี้

IDevice ใหม่ต้องอ้างอิงอุปกรณ์จริงเดียวกันกับข้อมูลอ้างอิงปัจจุบัน ระบบจะเรียกใช้เมธอดนี้หาก DDMS มอบหมาย IDevice ใหม่

พารามิเตอร์
`newDevice`	`IDevice`: `IDevice`

setLogStartDelay

public void setLogStartDelay (int delay)

ตั้งค่าเวลาเป็นมิลลิวินาทีที่จะรอก่อนที่จะเริ่มการบันทึก Logcat สําหรับอุปกรณ์ออนไลน์

พารามิเตอร์
`delay`	`int`: การหน่วงเวลาเป็นมิลลิวินาที

setOptions

public void setOptions (TestDeviceOptions options)

ตั้งค่า TestDeviceOptions สําหรับอุปกรณ์

พารามิเตอร์
`options`	`TestDeviceOptions`

setProperty

public boolean setProperty (String propKey, 
                String propValue)

ตั้งค่าพร็อพเพอร์ตี้ที่ระบุในอุปกรณ์ Requires adb root เป็น "จริง"

พารามิเตอร์
`propKey`	`String`: คีย์ที่กำหนดเป้าหมายที่จะตั้งค่า
`propValue`	`String`: ค่าพร็อพเพอร์ตี้ที่จะตั้งค่า

คิกรีเทิร์น
`boolean`	แสดงผล `True` หากคำสั่ง setprop ดำเนินการสำเร็จ หรือแสดงผลเป็น False หากไม่สำเร็จ

โยน
`DeviceNotAvailableException`

setRecovery

public void setRecovery (IDeviceRecovery recovery)

ตั้งค่า IDeviceRecovery เพื่อใช้กับอุปกรณ์นี้ ควรตั้งค่าเมื่อจัดสรรอุปกรณ์เป็นครั้งแรก

พารามิเตอร์
`recovery`	`IDeviceRecovery`: `IDeviceRecovery`

setRecoveryMode

public void setRecoveryMode (ITestDevice.RecoveryMode mode)

ตั้งค่าโหมดการกู้คืนปัจจุบันที่จะใช้กับอุปกรณ์

ใช้เพื่อควบคุมวิธีการกู้คืนที่จะใช้เมื่อพบปัญหาการสื่อสารของอุปกรณ์ เราขอแนะนำให้ใช้วิธีการนี้เฉพาะเมื่อจำเป็นเท่านั้น (เช่น เมื่อเฟรมเวิร์กไม่ทำงาน ฯลฯ

พารามิเตอร์
`mode`	`ITestDevice.RecoveryMode`: ควรเปิดโหมด "กู้คืนจนกว่าจะออนไลน์เท่านั้น" หรือไม่

setSetting

public void setSetting (String namespace, 
                String key, 
                String value)

ดู setSetting(int, String, String, String) และดำเนินการกับผู้ใช้ระบบ

พารามิเตอร์
`namespace`	`String`
`key`	`String`
`value`	`String`

โยน
`DeviceNotAvailableException`

setSetting

public void setSetting (int userId, 
                String namespace, 
                String key, 
                String value)

เพิ่มค่าการตั้งค่าลงในเนมสเปซของผู้ใช้รายหนึ่งๆ การตั้งค่าบางอย่างจะใช้ได้หลังจากรีบูตเท่านั้น namespace ต้องเป็นค่าใดค่าหนึ่งต่อไปนี้ {"system", "secure", "global"}

พารามิเตอร์
`userId`	`int`
`namespace`	`String`
`key`	`String`
`value`	`String`

โยน
`DeviceNotAvailableException`

setTestLogger

public void setTestLogger (ITestLogger testLogger)

แทรกอินสแตนซ์ ITestLogger

พารามิเตอร์
`testLogger`	`ITestLogger`

setTrackingSerial

public void setTrackingSerial (String trackingSerial)

ติดตามหมายเลขซีเรียลที่เราใช้อ้างอิงอุปกรณ์เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดการอุปกรณ์

พารามิเตอร์
`trackingSerial`	`String`

setUseFastbootErase

public void setUseFastbootErase (boolean useFastbootErase)

ตั้งค่าว่าจะใช้การลบด้วย Fastboot หรือการจัดรูปแบบด้วย Fastboot เพื่อล้างพาร์ติชันในอุปกรณ์

พารามิเตอร์
`useFastbootErase`	`boolean`: `true` หากควรใช้การลบด้วย Fastboot หรือ `false` หากควรใช้การฟอร์แมตด้วย Fastboot

startLogcat

public void startLogcat ()

เริ่มบันทึกเอาต์พุต Logcat จากอุปกรณ์ในเบื้องหลัง

จะไม่มีผลหากมีการบันทึกเอาต์พุตของ Logcat อยู่แล้ว คุณจะเรียกข้อมูลในภายหลังได้ผ่าน getLogcat

เมื่อไม่ได้ใช้งานอุปกรณ์แล้ว จะต้องเรียกใช้ stopLogcat()

โดยทั่วไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องเรียกใช้ startLogcat() และ stopLogcat() เมื่ออยู่ภายในบริบทการเรียกใช้ TF เนื่องจากเฟรมเวิร์ก TF จะเริ่มต้นและหยุด logcat

startUser

public boolean startUser (int userId)

เริ่มผู้ใช้ที่ระบุในเบื้องหลังหากหยุดอยู่ หากผู้ใช้ทำงานอยู่เบื้องหลังอยู่แล้ว วิธีนี้จะใช้งานไม่ได้

พารามิเตอร์
`userId`	`int`: ของผู้ใช้เพื่อเริ่มทำงานในเบื้องหลัง

คิกรีเทิร์น
`boolean`	จริงหากผู้ใช้เริ่มทำงานในเบื้องหลังได้สําเร็จ

โยน
`DeviceNotAvailableException`

startUser

public boolean startUser (int userId, 
                boolean waitFlag)

เริ่มผู้ใช้ที่ระบุในเบื้องหลังหากหยุดอยู่ หากผู้ใช้ทำงานอยู่เบื้องหลังอยู่แล้ว วิธีนี้จะใช้งานไม่ได้ ระบุ Flag เพิ่มเติมเพื่อรอให้การดำเนินการมีผลได้

พารามิเตอร์
`userId`	`int`: ของผู้ใช้เพื่อเริ่มทำงานในเบื้องหลัง
`waitFlag`	`boolean`: จะทำให้คำสั่งรอจนกว่าผู้ใช้จะเริ่มต้นและปลดล็อก

คิกรีเทิร์น
`boolean`	จริงหากผู้ใช้เริ่มทำงานในเบื้องหลังได้สําเร็จ

โยน
`DeviceNotAvailableException`

startVisibleBackgroundUser

public boolean startVisibleBackgroundUser (int userId, 
                int displayId, 
                boolean waitFlag)

เริ่มผู้ใช้ที่ระบุในเบื้องหลัง ซึ่งจะปรากฏในจอแสดงผลที่ระบุ (กล่าวคือ อนุญาตให้ผู้ใช้เปิดกิจกรรมในจอแสดงผลนั้น)

หมายเหตุ: คําสั่งนี้จะไม่ตรวจสอบว่าผู้ใช้มีอยู่ไหม จอแสดงผลพร้อมใช้งานไหม device supports such feature ฯลฯ

พารามิเตอร์
`userId`	`int`: ของผู้ใช้เพื่อเริ่มทำงานในเบื้องหลัง
`displayId`	`int`: แสดงเพื่อเริ่มแสดงต่อผู้ใช้
`waitFlag`	`boolean`: จะทำให้คำสั่งรอจนกว่าผู้ใช้จะเริ่มต้นและปลดล็อก

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากผู้ใช้เริ่มทำงานในเบื้องหลังได้สําเร็จ

โยน
`DeviceNotAvailableException`

stopEmulatorOutput

public void stopEmulatorOutput ()

ปิดและลบเอาต์พุตของโปรแกรมจำลอง

stopLogcat

public void stopLogcat ()

หยุดบันทึกเอาต์พุต logcat จากอุปกรณ์และทิ้งข้อมูล logcat ที่บันทึกไว้ในปัจจุบัน

จะไม่มีผลหากไม่ได้บันทึกเอาต์พุตของ Logcat

stopUser

public boolean stopUser (int userId)

หยุดผู้ใช้รายหนึ่ง หากผู้ใช้หยุดแล้ว วิธีการนี้จะใช้งานไม่ได้ หยุดผู้ใช้ปัจจุบันและผู้ใช้ระบบไม่ได้

พารามิเตอร์
`userId`	`int`: ของผู้ใช้ให้หยุด

คิกรีเทิร์น
`boolean`	จริง หากหยุดผู้ใช้ได้สําเร็จ

โยน
`DeviceNotAvailableException`

stopUser

public boolean stopUser (int userId, 
                boolean waitFlag, 
                boolean forceFlag)

หยุดผู้ใช้รายหนึ่ง ระบุ Flag เพิ่มเติมเพื่อรอให้การดำเนินการมีผล และบังคับให้สิ้นสุดการทำงานของผู้ใช้ได้ หยุดผู้ใช้ปัจจุบันและผู้ใช้ระบบไม่ได้

พารามิเตอร์
`userId`	`int`: ของผู้ใช้ให้หยุด
`waitFlag`	`boolean`: จะทำให้คำสั่งรอจนกว่าผู้ใช้จะหยุด
`forceFlag`	`boolean`: จะบังคับให้ผู้ใช้หยุด

คิกรีเทิร์น
`boolean`	จริง หากหยุดผู้ใช้ได้สําเร็จ

โยน
`DeviceNotAvailableException`

switchToAdbTcp

public String switchToAdbTcp ()

เปลี่ยนอุปกรณ์เป็นโหมด adb-over-tcp

คิกรีเทิร์น
`String`	หมายเลขซีเรียลของ TCP หรือ `null` หากเปลี่ยนอุปกรณ์ไม่ได้

โยน
`DeviceNotAvailableException`

switchToAdbUsb

public boolean switchToAdbUsb ()

เปลี่ยนอุปกรณ์เป็นโหมด adb ผ่าน USB

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากเปลี่ยนสำเร็จ หรือ `false` หากเปลี่ยนไม่สำเร็จ

โยน
`DeviceNotAvailableException`

switchUser

public boolean switchUser (int userId)

เปลี่ยนไปใช้รหัสผู้ใช้อื่นที่มีระยะหมดเวลาเริ่มต้น switchUser(int, long)

พารามิเตอร์
`userId`	`int`

คิกรีเทิร์น
`boolean`	จริงหาก userId ใหม่ตรงกับผู้ให้บริการ userId จะเป็นเท็จหากไม่เป็นเช่นนั้น

โยน
`DeviceNotAvailableException`

switchUser

public boolean switchUser (int userId, 
                long timeout)

เปลี่ยนไปใช้รหัสผู้ใช้อื่นโดยกำหนดเวลาหมดอายุเป็นระยะหมดเวลา พยายามปิดใช้การป้องกันด้วยการล็อกคีย์หลังจากการเปลี่ยนแปลงของผู้ใช้สำเร็จ

พารามิเตอร์
`userId`	`int`
`timeout`	`long`: เพื่อรอก่อนที่จะแสดงผลลัพธ์เป็นเท็จสำหรับ "เปลี่ยนผู้ใช้ไม่สำเร็จ"

คิกรีเทิร์น
`boolean`	จริงหาก userId ใหม่ตรงกับผู้ให้บริการ userId จะเป็นเท็จหากไม่เป็นเช่นนั้น

โยน
`DeviceNotAvailableException`

syncFiles

public boolean syncFiles (File localFileDir, 
                String deviceFilePath)

ซิงค์เนื้อหาของไดเรกทอรีไฟล์ในเครื่องกับอุปกรณ์แบบเพิ่ม

เลือกไฟล์ที่จะพุชโดยเปรียบเทียบการประทับเวลาของไฟล์ในเครื่องกับไฟล์ที่เทียบเท่าในระบบระยะไกล ระบบจะพุชเฉพาะไฟล์ที่ "ใหม่กว่า" หรือไม่มีอยู่ในอุปกรณ์ ดังนั้น ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจึงควรมีไม่มากนักหากไฟล์ที่อุปกรณ์มีอยู่แล้วเป็นเวอร์ชันล่าสุด

ระบบจะไม่สนใจไฟล์ที่ซ่อนอยู่ (ชื่อขึ้นต้นด้วย ".")

ตัวอย่างการใช้งาน: syncFiles("/tmp/files", "/sdcard") จะสร้างไดเรกทอรี /sdcard/files หากยังไม่มี และพุชเนื้อหา /tmp/files ไปยัง /sdcard/files แบบซ้ำ

พารามิเตอร์

localFileDir

File: ไดเรกทอรีไฟล์ในเครื่องที่มีไฟล์ที่จะพุชแบบซ้ำ

deviceFilePath

String: รูทเส้นทางไฟล์สัมบูรณ์ปลายทางระยะไกล ไดเรกทอรีทั้งหมดในเส้นทางไฟล์ดังกล่าวต้องอ่านได้ เช่น การพุชไปยัง /data/local/tmp เมื่อ adb ไม่ใช่รูทจะดำเนินการไม่สำเร็จ

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากซิงค์ไฟล์สําเร็จ `false` ในกรณีอื่น

โยน
`DeviceNotAvailableException`

takeBugreport

public Bugreport takeBugreport ()

รับรายงานข้อบกพร่องและแสดงผลภายในออบเจ็กต์ Bugreport เพื่อจัดการ แสดงผล Nullในกรณีมีปัญหา ไฟล์ที่อ้างอิงในออบเจ็กต์ Bugreport ต้องล้างข้อมูลผ่าน Bugreport.close()

คิกรีเทิร์น
`Bugreport`

uninstallPackage

public String uninstallPackage (String packageName)

ถอนการติดตั้งแพ็กเกจ Android จากอุปกรณ์

พารามิเตอร์
`packageName`	`String`: แพ็กเกจ Android ที่จะถอนการติดตั้ง

คิกรีเทิร์น
`String`	`String` พร้อมรหัสข้อผิดพลาด หรือ `null` หากสำเร็จ

โยน
`DeviceNotAvailableException`

uninstallPackageForUser

public String uninstallPackageForUser (String packageName, 
                int userId)

ถอนการติดตั้งแพ็กเกจ Android จากอุปกรณ์ของผู้ใช้รายหนึ่ง

พารามิเตอร์
`packageName`	`String`: แพ็กเกจ Android ที่จะถอนการติดตั้ง
`userId`	`int`: รหัสผู้ใช้แบบจำนวนเต็มที่จะถอนการติดตั้ง

คิกรีเทิร์น
`String`	`String` พร้อมรหัสข้อผิดพลาด หรือ `null` หากสำเร็จ

โยน
`DeviceNotAvailableException`

unlockDevice

public boolean unlockDevice ()

ปลดล็อกอุปกรณ์หากอุปกรณ์อยู่ในสถานะเข้ารหัส

วิธีนี้อาจรีสตาร์ทเฟรมเวิร์ก แต่ไม่เรียกใช้ postBootSetup() ดังนั้น อุปกรณ์อาจยังไม่พร้อมที่จะทดสอบอย่างเต็มรูปแบบเมื่อใช้วิธีการนี้

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากดำเนินการสำเร็จหรืออุปกรณ์ไม่ได้เข้ารหัส

โยน
`DeviceNotAvailableException`

unmountDebugfs

public void unmountDebugfs ()

ยกเลิกการต่อเชื่อม debugfs

โยน
`DeviceNotAvailableException`

waitForBootComplete

public boolean waitForBootComplete (long timeOut)

บล็อกจนกว่าจะมีการตั้งค่า Flag การบูตเสร็จสมบูรณ์ของอุปกรณ์

พารามิเตอร์
`timeOut`	`long`: เวลาเป็นมิลลิวินาทีที่รอให้ตั้งค่า Flag

คิกรีเทิร์น
`boolean`	จริงหากตั้งค่า Flag การบูตเสร็จสมบูรณ์ของอุปกรณ์ภายในระยะหมดเวลา

โยน
`DeviceNotAvailableException`

waitForDeviceAvailable

public boolean waitForDeviceAvailable ()

รอให้อุปกรณ์ตอบสนองและพร้อมสำหรับการทดสอบ ใช้ระยะหมดเวลาเริ่มต้น

คิกรีเทิร์น
`boolean`	จริงหากอุปกรณ์พร้อมใช้งาน เท็จหากการกู้คืนปิดอยู่และไม่พร้อมใช้งาน

โยน
`DeviceNotAvailableException`

waitForDeviceAvailable

public boolean waitForDeviceAvailable (long waitTime)

รอให้อุปกรณ์ตอบสนองและพร้อมสำหรับการทดสอบ

พารามิเตอร์
`waitTime`	`long`: เวลารอเป็นมิลลิวินาที

คิกรีเทิร์น
`boolean`	จริงหากอุปกรณ์พร้อมใช้งาน เท็จหากการกู้คืนปิดอยู่และไม่พร้อมใช้งาน

โยน
`DeviceNotAvailableException`

waitForDeviceAvailableInRecoverPath

public boolean waitForDeviceAvailableInRecoverPath (long waitTime)

รอให้อุปกรณ์ตอบสนองและพร้อมใช้งานโดยไม่คำนึงถึงเส้นทางการกู้คืน

พารามิเตอร์
`waitTime`	`long`

คิกรีเทิร์น
`boolean`	จริงหากอุปกรณ์พร้อมใช้งาน เท็จหากไม่พร้อมใช้งาน

โยน
`DeviceNotAvailableException`

waitForDeviceBootloader

public void waitForDeviceBootloader ()

บล็อกจนกว่าอุปกรณ์จะมองเห็นได้ผ่าน Fastboot ใช้ระยะหมดเวลาเริ่มต้น

โยน
`DeviceNotAvailableException`

waitForDeviceInRecovery

public boolean waitForDeviceInRecovery (long waitTime)

บล็อกไม่ให้อุปกรณ์อยู่ในสถานะ "การกู้คืน adb" (โปรดทราบว่าสถานะนี้แตกต่างจาก IDeviceRecovery)

พารามิเตอร์
`waitTime`	`long`: เวลารอเป็นมิลลิวินาที

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากอุปกรณ์บูตเข้าสู่ Recovery ก่อนที่เวลาจะหมด `false` เมื่อสั่งซื้อนอกเหนือจากมูลค่าที่กำหนด

waitForDeviceInSideload

public boolean waitForDeviceInSideload (long waitTime)

บล็อกไม่ให้อุปกรณ์อยู่ในสถานะ "การโหลดจากด้านข้างด้วย adb"

พารามิเตอร์
`waitTime`	`long`: เวลารอเป็นมิลลิวินาที

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากอุปกรณ์บูตเข้าสู่การโหลดจากแหล่งที่ไม่รู้จักก่อนที่เวลาจะหมด `false` เมื่อสั่งซื้อนอกเหนือจากมูลค่าที่กำหนด

waitForDeviceNotAvailable

public boolean waitForDeviceNotAvailable (long waitTime)

บล็อกไม่ให้อุปกรณ์ใช้งานได้ เช่น ไม่อยู่ใน ADB

พารามิเตอร์
`waitTime`	`long`: เวลารอเป็นมิลลิวินาที

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากอุปกรณ์ไม่พร้อมใช้งานก่อนที่เวลาจะหมด `false` เมื่อสั่งซื้อนอกเหนือจากมูลค่าที่กำหนด

waitForDeviceOnline

public void waitForDeviceOnline ()

บล็อกจนกว่าอุปกรณ์จะมองเห็นได้ผ่าน adb ใช้ระยะหมดเวลาเริ่มต้น

โปรดทราบว่าอุปกรณ์อาจไม่ตอบสนองต่อคําสั่งเมื่อดำเนินการเสร็จสมบูรณ์ ให้ใช้ waitForDeviceAvailable() แทน

โยน
`DeviceNotAvailableException`

waitForDeviceOnline

public void waitForDeviceOnline (long waitTime)

บล็อกจนกว่าอุปกรณ์จะมองเห็นได้ผ่าน adb

พารามิเตอร์
`waitTime`	`long`: เวลารอเป็นมิลลิวินาที

โยน
`DeviceNotAvailableException`

waitForDeviceShell

public boolean waitForDeviceShell (long waitTime)

รอให้อุปกรณ์ตอบสนองต่อคําสั่ง adb shell พื้นฐาน

พารามิเตอร์
`waitTime`	`long`: เวลารอเป็นมิลลิวินาที

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากอุปกรณ์เริ่มตอบสนองก่อนที่ `waitTime` จะหมดเวลา

วิธีการที่มีการป้องกัน

addExtraConnectionBuilderArgs

protected void addExtraConnectionBuilderArgs (DefaultConnection.ConnectionBuilder builder)

พารามิเตอร์
`builder`	`DefaultConnection.ConnectionBuilder`

buildAdbShellCommand

protected String[] buildAdbShellCommand (String command, 
                boolean forceExitStatusDetection)

สร้างคำสั่งระบบปฏิบัติการสำหรับเซสชันและอาร์กิวเมนต์คำสั่งเชลล์ adb ที่ระบุ

พารามิเตอร์
`command`	`String`
`forceExitStatusDetection`	`boolean`

คิกรีเทิร์น
`String[]`

checkApiLevelAgainst

protected void checkApiLevelAgainst (String feature, 
                int strictMinLevel)

พารามิเตอร์
`feature`	`String`
`strictMinLevel`	`int`

createRebootDeviceAction

protected NativeDevice.RebootDeviceAction createRebootDeviceAction (NativeDevice.RebootMode rebootMode, 
                String reason)

สร้าง RebootDeviceAction เพื่อใช้เมื่อดำเนินการรีบูต

พารามิเตอร์
`rebootMode`	`NativeDevice.RebootMode`: โหมดของการรีบูตนี้
`reason`	`String`: สำหรับการรีบูตครั้งนี้

คิกรีเทิร์น
`NativeDevice.RebootDeviceAction`	`RebootDeviceAction` ที่สร้างขึ้น

createRunUtil

protected IRunUtil createRunUtil ()

คิกรีเทิร์น
`IRunUtil`

doAdbReboot

protected void doAdbReboot (NativeDevice.RebootMode rebootMode, 
                String reason)

รีบูต adb

พารามิเตอร์
`rebootMode`	`NativeDevice.RebootMode`: โหมดของการรีบูตนี้
`reason`	`String`: สำหรับการรีบูตครั้งนี้

โยน
	com.android.tradefed.device.DeviceNotAvailableException
`DeviceNotAvailableException`

ensureRuntimePermissionSupported

protected void ensureRuntimePermissionSupported ()

เมธอดตัวช่วยที่จะแสดงข้อยกเว้นหากระบบไม่รองรับสิทธิ์รันไทม์

โยน
	com.android.tradefed.device.DeviceNotAvailableException
`DeviceNotAvailableException`

getApiLevelSafe

protected int getApiLevelSafe ()

คิกรีเทิร์น
`int`

getLogger

protected ITestLogger getLogger ()

คิกรีเทิร์น
`ITestLogger`

getRunUtil

protected IRunUtil getRunUtil ()

รับอินสแตนซ์ RunUtil เพื่อใช้งาน

คิกรีเทิร์น
`IRunUtil`

initializeConnection

protected void initializeConnection (IBuildInfo info, 
                MultiMap<String, String> attributes)

พารามิเตอร์
`info`	`IBuildInfo`
`attributes`	`MultiMap`

โยน
`DeviceNotAvailableException`
`TargetSetupError`

internalGetProperty

protected String internalGetProperty (String propName, 
                String fastbootVar, 
                String description)

ดึงข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ของอุปกรณ์จากแคช ddmlib โดยค่าเริ่มต้น และเปลี่ยนไปใช้ `adb shell getprop` หรือ `fastboot getvar` ขึ้นอยู่กับว่าอุปกรณ์อยู่ใน Fastboot หรือไม่

พารามิเตอร์
`propName`	`String`: ชื่อพร็อพเพอร์ตี้ของอุปกรณ์ที่แสดงผลโดย `adb shell getprop`
`fastbootVar`	`String`: ชื่อตัวแปร fastboot ที่เทียบเท่าที่จะค้นหา หากเป็น `null` ระบบจะไม่พยายามค้นหา fastboot
`description`	`String`: คำอธิบายตัวแปรแบบง่าย ตัวอักษรตัวแรกควรเป็นตัวพิมพ์ใหญ่

คิกรีเทิร์น
`String`	สตริงที่อาจเป็น `null` หรือว่างเปล่าซึ่งมีค่าของพร็อพเพอร์ตี้ที่ระบุ

โยน
`DeviceNotAvailableException`

isInRebootCallback

protected boolean isInRebootCallback ()

แสดงผลว่าขณะนี้มีการเรียกกลับการรีบูตหรือไม่ ควรปิดใช้ API สาธารณะทั้งหมดสำหรับการรีบูตหากเป็นจริง

คิกรีเทิร์น
`boolean`

isNewer

protected boolean isNewer (File localFile, 
                IFileEntry entry)

แสดงผล true หากไฟล์ในเครื่องใหม่กว่าไฟล์ระยะไกล IFileEntry ถูกต้องจนถึงนาที หากมีเวลาเท่ากัน ระบบจะถือว่าไฟล์ใหม่กว่า

พารามิเตอร์
`localFile`	`File`
`entry`	`IFileEntry`

คิกรีเทิร์น
`boolean`

notifyRebootEnded

protected void notifyRebootEnded ()

แจ้ง IDeviceActionReceiver ทั้งหมดเกี่ยวกับเหตุการณ์การรีบูตสิ้นสุด

โยน
	com.android.tradefed.device.DeviceNotAvailableException
`DeviceNotAvailableException`

notifyRebootStarted

protected void notifyRebootStarted ()

แจ้ง IDeviceActionReceiver ทั้งหมดเกี่ยวกับเหตุการณ์การเริ่มรีบูต

โยน
	com.android.tradefed.device.DeviceNotAvailableException
`DeviceNotAvailableException`

performDeviceAction

protected boolean performDeviceAction (String actionDescription, 
                NativeDevice.DeviceAction action, 
                int retryAttempts)

ดำเนินการในอุปกรณ์นี้ พยายามกู้คืนอุปกรณ์และอาจลองใช้คำสั่งอีกครั้งหากการดำเนินการไม่สำเร็จ

พารามิเตอร์
`actionDescription`	`String`: คำอธิบายสั้นๆ ของการดำเนินการที่จะทำ ใช้เพื่อการบันทึกเท่านั้น
`action`	`NativeDevice.DeviceAction`: การดำเนินการที่จะทำ
`retryAttempts`	`int`: การพยายามดำเนินการอีกครั้งหากการดำเนินการไม่สำเร็จแต่การกู้คืนสำเร็จ

คิกรีเทิร์น
`boolean`	`true` หากดำเนินการสำเร็จ

โยน
`DeviceNotAvailableException`	if recovery attempt fails or max attempts done without success

postAdbReboot

protected void postAdbReboot ()

การดำเนินการเพิ่มเติมที่ทำได้หลังจากรีบูต

โยน
	com.android.tradefed.device.DeviceNotAvailableException
`DeviceNotAvailableException`

prePostBootSetup

protected void prePostBootSetup ()

อนุญาตให้อุปกรณ์แต่ละประเภท (AndroidNativeDevice, TestDevice) ลบล้างวิธีการนี้สำหรับการตั้งค่าหลังการบูตที่เฉพาะเจาะจง

โยน
	com.android.tradefed.device.DeviceNotAvailableException
`DeviceNotAvailableException`

pullFileInternal

protected boolean pullFileInternal (String remoteFilePath, 
                File localFile)

พารามิเตอร์
`remoteFilePath`	`String`
`localFile`	`File`

คิกรีเทิร์น
`boolean`

โยน
`DeviceNotAvailableException`

setClock

protected void setClock (Clock clock)

ตั้งค่าอินสแตนซ์นาฬิกาที่จะใช้

พารามิเตอร์
`clock`	`Clock`

setMicrodroidProcess

protected void setMicrodroidProcess (Process process)

ทําเครื่องหมาย TestDevice เป็น microdroid และตั้งค่ารหัสลูกค้า

พารามิเตอร์
`process`	`Process`: กระบวนการของ VM Microdroid

setTestDeviceOptions

protected void setTestDeviceOptions ( deviceOptions)

พารามิเตอร์
`deviceOptions`

simpleFastbootCommand

protected CommandResult simpleFastbootCommand (long timeout, 
                 envVarMap, 
                String[] fullCmd)

เรียกใช้คําสั่ง fastboot แบบง่ายด้วยตัวแปรสภาพแวดล้อมและรายงานสถานะของคําสั่ง

พารามิเตอร์
`timeout`	`long`
`envVarMap`
`fullCmd`	`String`

คิกรีเทิร์น
`CommandResult`

simpleFastbootCommand

protected CommandResult simpleFastbootCommand (long timeout, 
                String[] fullCmd)

เรียกใช้คำสั่ง fastboot ง่ายๆ และรายงานสถานะของคำสั่ง

พารามิเตอร์
`timeout`	`long`
`fullCmd`	`String`

คิกรีเทิร์น
`CommandResult`

waitForDeviceNotAvailable

protected boolean waitForDeviceNotAvailable (String operationDesc, 
                long time)

รอให้อุปกรณ์ไม่พร้อมใช้งาน (หยุดรายงานไปยัง adb)

พารามิเตอร์
`operationDesc`	`String`: ชื่อการดำเนินการที่รอไม่พร้อมใช้งาน
`time`	`long`: ระยะเวลาที่รอให้เหตุการณ์ "ไม่พร้อมใช้งาน" เกิดขึ้น

คิกรีเทิร์น
`boolean`	เป็นจริงหากอุปกรณ์ไม่พร้อมใช้งาน

NativeDevice

สรุป

ชั้นเรียนที่ซ้อนกัน

ค่าคงที่

ช่อง

ตัวสร้างแบบสาธารณะ

เมธอดสาธารณะ

วิธีการที่มีการป้องกัน

ค่าคงที่

INVALID_USER_ID

MAX_HOST_DEVICE_TIME_OFFSET

MAX_RETRY_ATTEMPTS

ช่อง

DEBUGFS_PATH

SD_CARD

STORAGE_EMULATED

mOptions

mStateMonitor

ตัวสร้างแบบสาธารณะ

NativeDevice

เมธอดสาธารณะ

batchPrefetchStartupBuildProps

canSwitchToHeadlessSystemUser

checkApiLevelAgainstNextRelease

checkConnectivity

clearErrorDialogs

clearLastConnectedWifiNetwork

clearLogcat

connectToWifiNetwork

connectToWifiNetwork

connectToWifiNetwork

connectToWifiNetwork

connectToWifiNetworkIfNeeded

connectToWifiNetworkIfNeeded

createUser

createUser

createUser

createUserNoThrow

deleteFile

deleteFile

deregisterDeviceActionReceiver

deviceSoftRestarted

deviceSoftRestartedSince

disableAdbRoot

disableKeyguard

disableNetworkMonitor

disconnectFromWifi

doesFileExist

doesFileExist

dumpHeap

enableAdbRoot

enableNetworkMonitor

executeAdbCommand

executeAdbCommand

executeAdbCommand

executeFastbootCommand

executeFastbootCommand

executeLongFastbootCommand

executeLongFastbootCommand

executeShellCommand

executeShellCommand

executeShellCommand

executeShellCommand

executeShellV2Command

executeShellV2Command

executeShellV2Command

executeShellV2Command

executeShellV2Command

executeShellV2Command

executeShellV2Command

fastbootWipePartition

getActiveApexes

getAllSettings

getAllocationState

getAndroidId

getAndroidIds

getApiLevel

getAppPackageInfo

getAppPackageInfos

getBasebandVersion