ตั้งค่าจุดเข้าใช้งาน BananaPi-R3

หน้านี้อธิบายขั้นตอนการตั้งค่าสำหรับจุดเข้าใช้งาน (AP) BananaPi-R3 BPi-R3 ซึ่งใช้ในการทดสอบการเชื่อมต่อ Wi-Fi AP สำหรับ Android 16 QPR2 ขึ้นไป

ตั้งค่าฮาร์ดแวร์

วิธีตั้งค่าฮาร์ดแวร์

  1. ติดตั้งพัดลมระบายความร้อนบนบอร์ด BPi-R3 โดยทำดังนี้

    1. ติดแผ่นระบายความร้อน 2 แผ่นกับชิป รูปที่ 1 แสดงตำแหน่งของแผ่นระบายความร้อน

      ตำแหน่งของแผ่นระบายความร้อนบนบอร์ด BPi-R3

      รูปที่ 1 ตำแหน่งของแผ่นระบายความร้อนบนบอร์ด BPi-R3

    2. ติดตั้งพัดลมและยึดด้วยสกรู 4 ตัวจากด้านล่างของบอร์ด RPi-R3 รูปที่ 2 แสดงตำแหน่งของรูยึดพัดลมที่ ด้านล่างของบอร์ด BPi-R3

      รูยึดพัดลมที่ด้านล่างของบอร์ด BPi-R3

      รูปที่ 2 รูยึดพัดลมที่ด้านล่างของบอร์ด BPi-R3

    3. เชื่อมต่อพัดลมกับแหล่งจ่ายไฟที่ตำแหน่งที่มีป้ายกำกับว่า FAN รูปที่ 3 แสดงขั้วต่อไฟพัดลมบนบอร์ด BPi-R3

      ขั้วต่อสายไฟของพัดลม

      รูปที่ 3 ขั้วต่อสายไฟของพัดลม

  2. ขันสกรูบอร์ด BPi-R3 เข้ากับเคสที่มุมทั้ง 4 รูปที่ 4 แสดง ตำแหน่งของสกรู 4 มุมในเคส

    สกรูมุมในเคส

    รูปที่ 4 สกรูมุมในเคส

  3. มีชุดขั้วต่อ U.FL 4 ชุด 2 ชุด ชุดหนึ่งสำหรับ 2.4 GHz และอีกชุดสำหรับ 5 GHz อยู่ทางด้านขวาของบอร์ด ขั้วต่อ 2.4 GHz อยู่เหนือขั้วต่อ 5 GHz รูปที่ 5 แสดงตำแหน่งของขั้วต่อ U.FL

    ขั้วต่อ U.FL

    รูปที่ 5 ขั้วต่อ U.FL

    เชื่อมต่อสาย RF ทั้ง 8 เส้นเข้ากับขั้วต่อ U.FL โดยวางพอร์ต 2.4 G 4 พอร์ต ไว้ด้านหนึ่ง และวางพอร์ต 5 G 4 พอร์ตไว้ที่อีกด้าน รูปที่ 6 แสดงตำแหน่ง ของขั้วต่อ U.FL

    การเชื่อมต่อสาย RF

    รูปที่ 6 การเชื่อมต่อสาย RF

  4. ต่อเสาอากาศ 8 เสาเข้ากับบอร์ด ตรวจสอบว่าขันเสาอากาศ แน่นดีแล้ว รูปที่ 7 แสดงเสาอากาศที่เชื่อมต่อ

    การเชื่อมต่อเสาอากาศ

    รูปที่ 7 การเชื่อมต่อเสาอากาศ

  5. ติดตั้งแผงด้านบนของเคส รูปที่ 8 แสดงเคส BPi-R3 ที่ติดตั้งแผงด้านบน

    เคส BPi-R3 ที่ติดตั้งแผงด้านบน

    รูปที่ 8 เคส BPi-R3 ที่ติดตั้งแผงด้านบน

  6. เสียบสายไฟและสายอีเทอร์เน็ตเข้ากับ AP เสียบสายอีเทอร์เน็ตเข้ากับพอร์ต WAN ใน AP รูปที่ 9 แสดงตำแหน่งของพอร์ตจ่ายไฟและพอร์ต อีเทอร์เน็ต

    พอร์ตจ่ายไฟและพอร์ตอีเทอร์เน็ต

    รูปที่ 9 พอร์ตจ่ายไฟและพอร์ตอีเทอร์เน็ต

แฟลชอิมเมจ OpenWrt

การแฟลชอุปกรณ์เป็นกระบวนการ 2 ขั้นตอน ดังนี้

  1. โหลดอิมเมจ OpenWrt ลงในการ์ด SD
  2. แฟลชอิมเมจ OpenWrt จากการ์ด SD ไปยังพื้นที่เก็บข้อมูลในอุปกรณ์ของ AP

โหลดอิมเมจ OpenWrt ลงในการ์ด SD

ส่วนนี้จะอธิบายวิธีโหลดอิมเมจ OpenWrt ลงในการ์ด SD

สิ่งที่ต้องมีก่อน

หากต้องการโหลดอิมเมจ OpenWrt ลงในการ์ด SD คุณจะต้องมีสิ่งต่อไปนี้

  • ซับเน็ตที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้
  • คอมพิวเตอร์ Linux ในซับเน็ตนี้ ใช้คอมพิวเตอร์เครื่องนี้เพื่อเตรียม SD การ์ด และเชื่อมต่อกับ AP โดยใช้ SSH

โหลดอิมเมจ OpenWrt ลงในการ์ด SD

หากต้องการแฟลชอิมเมจ OpenWrt ลงในการ์ด SD ให้ทำดังนี้

  1. ดาวน์โหลดอิมเมจ OpenWrt
  2. เสียบการ์ด SD เข้ากับเครื่อง Linux
  3. ล้างตารางพาร์ติชันและตัวระบุระบบไฟล์ทั้งหมดที่มีอยู่ด้วยคำสั่งต่อไปนี้

    sudo wipefs -a /dev/sd#
    
  4. เขียนการ์ด SD โดยทำดังนี้

    sudo dd if=openwrt-23.05.5-cros-1.4.0-standard-1.0.2-mediatek-filogic-bananapi_bpi-r3-sdcard.img of=/dev/sd# bs=1000M && sync && sync && sync
    
  5. รอ 3 วินาทีแล้วถอดปลั๊กการ์ด SD

  6. ตรวจสอบว่าได้ตั้งค่าจัมเปอร์การเริ่มต้นทั้งหมดของ AP เป็นสูง คุณต้องตั้งค่าจัมเปอร์ นี้เพื่อบูต AP จากการ์ด SD รูปที่ 10 แสดง ตำแหน่งของจัมเปอร์ Bootstrap

    ตำแหน่งของจัมเปอร์ Bootstrap

    รูปที่ 10 ตำแหน่งของจัมเปอร์สำหรับบูต

  7. ตรวจสอบว่าสายอีเทอร์เน็ตเชื่อมต่อกับพอร์ต WAN ของ AP

  8. ใส่การ์ด SD ลงใน AP

  9. ต่อสายไฟเข้ากับ AP ไฟ LED ตัวที่ 2 จะกะพริบเป็นสีเขียว ให้รอจนกว่าไฟจะหยุดกะพริบ รูปที่ 11 แสดงไฟ LED บอกสถานะ

    ไฟ LED

    รูปที่ 11 ไฟ LED บอกสถานะ

ตรวจสอบเวอร์ชันอิมเมจของการ์ด SD

หลังจากโหลดอิมเมจ OpenWrt ลงในการ์ด SD แล้ว ให้ตรวจสอบ เวอร์ชันของอิมเมจโดยทำดังนี้

  1. ระบุที่อยู่ IP สำหรับ AP หากต้องการระบุที่อยู่ IP ให้ ดูภาคผนวก ก: ค้นหาที่อยู่ IP ของ AP

  2. ดาวน์โหลดไฟล์ระบุตัวตน SSH testing_rsa ไปยังคอมพิวเตอร์ Linux ในซับเน็ตเดียวกับ AP

  3. ให้สิทธิ์ที่จำเป็นโดยทำดังนี้

    chmod 600 path-to-testing_rsa-file
    
  4. ใช้ SSH เพื่อเชื่อมต่อกับ AP จากคอมพิวเตอร์โฮสต์

    ssh -i path-to-testing_rsa-file root@IP
    

    หน้าจอที่คล้ายกับหน้าจอด้านล่างจะปรากฏขึ้น

    ใช้ SSH เพื่อเชื่อมต่อกับ AP

    รูปที่ 12 ใช้ SSH เพื่อเชื่อมต่อกับ AP

  5. ตรวจสอบว่าหมายเลขเวอร์ชันใน AP ตรงกับหมายเลขเวอร์ชัน ที่ไฮไลต์ในรูปที่ 12

แฟลชอิมเมจ OpenWrt จากการ์ด SD ไปยัง BPi-R3 AP

เนื่องจากการออกแบบฮาร์ดแวร์ การแฟลชอิมเมจ OpenWrt จากการ์ด SD ไปยัง eMMC ของ AP จึงเป็นกระบวนการ 2 ขั้นตอน ดังนี้

  1. แฟลชอิมเมจจากการ์ด SD ไปยังที่เก็บข้อมูล NAND
  2. แฟลช OpenWrt จาก NAND ไปยัง eMMC

แฟลชอิมเมจจากการ์ด SD ไปยังที่เก็บข้อมูล NAND

วิธีแฟลชอิมเมจ OpenWrt จากการ์ด SD ไปยังพื้นที่เก็บข้อมูล NAND

  1. ใส่การ์ด SD ลงใน AP

  2. เปิด AP และรอจนกว่าการบูตจะเสร็จสมบูรณ์ ตรวจสอบว่าไฟ LED ตัวที่ 2 ซึ่งมีเครื่องหมาย G แสดงไฟสีเขียวติดสว่าง รูปที่ 13 แสดงไฟ LED

    ไฟ LED

    รูปที่ 13 ไฟ LED บอกสถานะ

  3. ลงชื่อเข้าใช้ AP โดยใช้ SSH

  4. เรียกใช้คำสั่งต่อไปนี้เพื่อกำหนดค่าการรีบูตครั้งถัดไปเพื่อติดตั้งอิมเมจจาก การ์ด SD ไปยัง NAND Flash

    fw_setenv bootcmd "env default bootcmd ; saveenv ; run ubi_init ; bootmenu 0"
    

    คำสั่งนี้จะกำหนดค่าการรีบูตครั้งถัดไปเพื่อติดตั้งอิมเมจจากการ์ด SD ไปยัง NAND Flash

  5. รีบูต AP โดยทำดังนี้

    reboot
    
  6. รอจนกว่าการบูตจะเสร็จสมบูรณ์โดยตรวจสอบว่าไฟ LED ตัวที่ 2 แสดง ไฟสีเขียวติดสว่างไม่กะพริบ

  7. ยืนยันว่าคุณลงชื่อเข้าใช้ AP โดยใช้ SSH ได้

  8. ถอดสายไฟของ AP

  9. ตั้งค่าจัมเปอร์ Bootstrap ให้บูตจาก NAND รูปที่ 14 แสดงการตั้งค่าจัมเปอร์ บูตสแตรปใหม่

    การตั้งค่าจัมเปอร์ Bootstrap ใหม่

    รูปที่ 14 การตั้งค่าจัมเปอร์ Bootstrap ใหม่

  10. เปิด AP และรอจนกว่าการบูต AP จะเสร็จสมบูรณ์

  11. ระบุที่อยู่ IP สำหรับ AP หากต้องการระบุที่อยู่ IP ให้ ดูภาคผนวก ก: ค้นหาที่อยู่ IP ของ AP

  12. ลงชื่อเข้าใช้ AP ด้วยที่อยู่ IP ใหม่

  13. เรียกใช้คำสั่งต่อไปนี้เพื่อยืนยันว่าคุณใช้ระบบ OpenWrt ที่ติดตั้งใน NAND

    df -h
    

    เอาต์พุตควรแสดงระบบไฟล์ดิสก์ที่มี /dev/ubi0_6 รูปที่ 15 แสดง เอาต์พุต

    เอาต์พุตของคำสั่ง df -h

    รูปที่ 15 เอาต์พุตของคำสั่ง df -h

แฟลช OpenWrt จาก NAND ไปยัง eMMC

วิธีแฟลช OpenWrt จาก NAND ไปยัง eMMC

  1. ในเซสชัน SSH ให้เรียกใช้คำสั่งต่อไปนี้

    fw_setenv bootcmd "env default bootcmd ; saveenv ; saveenv ; run emmc_init ; bootmenu 0"
    

    คำสั่งนี้กำหนดค่าการรีบูตครั้งถัดไปเพื่อติดตั้งอิมเมจจาก NAND ไปยัง eMMC

  2. รีบูต AP โดยทำดังนี้

    reboot
    
  3. รอจนกว่าการบูตจะเสร็จสมบูรณ์โดยตรวจสอบว่าไฟ LED ตัวที่ 2 แสดง ไฟสีเขียวติดสว่างไม่กะพริบ

  4. ถอดสายไฟของ AP

  5. ถอดการ์ด SD ออกจาก AP

  6. ตั้งค่าจัมเปอร์การเริ่มต้นระบบให้บูตจาก eMMC รูปที่ 16 แสดงการตั้งค่าจัมเปอร์ การบูตใหม่

    การตั้งค่าจัมเปอร์ Bootstrap ใหม่

    รูปที่ 16 การตั้งค่าจัมเปอร์ Bootstrap ใหม่

  7. เปิด AP และรอจนกว่าการบูต AP จะเสร็จสมบูรณ์

  8. ระบุที่อยู่ IP สำหรับ AP หากต้องการระบุที่อยู่ IP ให้ดูภาคผนวก: ค้นหาที่อยู่ IP ของ AP

  9. ลงชื่อเข้าใช้ AP โดยใช้ที่อยู่ IP ใหม่

  10. เรียกใช้คำสั่งต่อไปนี้เพื่อยืนยันว่าคุณใช้ระบบ OpenWrt ที่ติดตั้งใน NAND

    df -h
    

    เอาต์พุตควรแสดงระบบไฟล์ดิสก์ที่มี /dev/fitrw รูปที่ 17 แสดง เอาต์พุต

    เอาต์พุตของคำสั่ง df -h

    รูปที่ 17 เอาต์พุตของคำสั่ง df -h

  11. เรียกใช้คำสั่งต่อไปนี้

    cat /sys/block/mmcblk0/device/type
    

    เอาต์พุตควรแสดง MMC แทน SD

กระบวนการตั้งค่า AP เสร็จสมบูรณ์แล้ว

ภาคผนวก ก.: ค้นหาที่อยู่ IP ของ AP

หากต้องการค้นหาที่อยู่ IP ของ AP ให้ทำตามวิธีการในส่วนนี้

  1. เรียกใช้คำสั่งต่อไปนี้

    ifconfig
    

    เอาต์พุตจะมีลักษณะคล้ายกับตัวอย่างต่อไปนี้

    docker0: flags=4099<UP,BROADCAST,MULTICAST>  mtu 1500
          inet 172.17.0.1  netmask 255.255.0.0  broadcast 172.17.255.255
          ether 02:42:67:38:a9:d8  txqueuelen 0  (Ethernet)
          RX packets 0  bytes 0 (0.0 B)
          RX errors 0  dropped 0  overruns 0  frame 0
          TX packets 0  bytes 0 (0.0 B)
          TX errors 0  dropped 0 overruns 0  carrier 0  collisions 0
    
    eno1: flags=4163<UP,BROADCAST,RUNNING,MULTICAST>  mtu 1500
          inet 100.103.191.133  netmask 255.255.255.0  broadcast 100.103.191.255
          inet6 2401:fa00:44:800:f64d:30ff:fe6d:bc3f  prefixlen 64  scopeid 0x0<global>
          inet6 fe80::f64d:30ff:fe6d:bc3f  prefixlen 64  scopeid 0x20<link>
          ether f4:4d:30:6d:bc:3f  txqueuelen 1000  (Ethernet)
          RX packets 31360658  bytes 39343143744 (39.3 GB)
          RX errors 0  dropped 0  overruns 0  frame 0
          TX packets 11023616  bytes 1258521174 (1.2 GB)
          TX errors 0  dropped 0 overruns 0  carrier 0  collisions 0
          device interrupt 16  memory 0xdc200000-dc220000
    
    lo: flags=73<UP,LOOPBACK,RUNNING>  mtu 65536
          inet 127.0.0.1  netmask 255.0.0.0
          inet6 ::1  prefixlen 128  scopeid 0x10<host>
          loop  txqueuelen 1000  (Local Loopback)
          RX packets 19825978  bytes 1265586518 (1.2 GB)
          RX errors 0  dropped 0  overruns 0  frame 0
          TX packets 19825978  bytes 1265586518 (1.2 GB)
          TX errors 0  dropped 0 overruns 0  carrier 0  collisions 0
    
    wlp58s0: flags=4099<UP,BROADCAST,MULTICAST>  mtu 1500
          ether f8:63:3f:2e:63:e6  txqueuelen 1000  (Ethernet)
          RX packets 0  bytes 0 (0.0 B)
          RX errors 0  dropped 0  overruns 0  frame 0
          TX packets 0  bytes 0 (0.0 B)
          TX errors 0  dropped 0 overruns 0  carrier 0  collisions
    
  2. ระบุที่อยู่ IP ของ AP ที่อยู่ IP คือค่าของinet ฟิลด์ของอินเทอร์เฟซ eno1 (100.103.191.133)

  3. ระบุ Netmask ของอินเทอร์เฟซ eno1 (255.255.255.0)

  4. ใช้ตารางต่อไปนี้เพื่อรับความยาวรหัสนำเครือข่ายจากเน็ตมาสก์

    เน็ตมาสก์ จำนวนบิตของเครือข่าย
    255.255.255.252 30
    255.255.255.248 29
    255.255.255.240 28
    255.255.255.0 24
    255.255.252.0 22
    255.255.248.0 21
    255.255.0.0 16
  5. ถอด AP ออกจากอินเทอร์เฟซ LAN ของโฮสต์

  6. เรียกใช้คำสั่งต่อไปนี้เพื่อรับที่อยู่ IP ของ LAN ของโฮสต์ของอุปกรณ์ ที่เชื่อมต่อกับโฮสต์

    sudo nmap -sP IP/network-prefix-length
    
  7. เชื่อมต่อ AP กับโฮสต์

  8. ทำขั้นตอนที่ 6 อีกครั้ง ที่อยู่ IP ใหม่ ซึ่งเป็นที่อยู่ IP ของ AP จะปรากฏขึ้น